แยมโรลกาแฟ
ส่ ว น ผ ส ม เ นื้ อ เ ค้ ก
๐ แป้งเค้ก 200 กรัม
๐ แป้งข้าวโพด 15 กรัม
๐ นมผง 25 กรัม
๐ ผงฟู 15 กรัม
๐ กาแฟบด 2 ช้อนโต๊ะ
๐ ไข่ไก่ 9 ฟอง
๐ น้ำตาลทราย 300 กรัม
๐ น้ำเปล่า 75 กรัม
๐ โอวาเลต 1 ช้อนโต๊ะ
๐ เนยสดละลาย 110 กรัม
วิ ธี ทำ
1. ร่อนแป้งเค้ก แป้งข้าวโพด นมผง ผงฟูและกาแฟบดเข้าด้วยกัน พักไว้
2. ผสมไข่ไก่ น้ำตาลทราย น้ำเปล่าและโอวาเล็ตลงในอ่างผสม คนพอเข้ากัน
3. นำส่วนผสมข้อที่ 1 และข้อที่ 2 คนพอเข้ากัน ตีด้วยหัวตะกร้อความเร็วสูงสุดเป็นเวลา 5 นาที
4. เติมเนยสดละลาย ตีต่อด้วยความเร็วต่ำสุดเป็นเวลา 1 นาที
5. นำส่วนผสมเทลงถาดที่เตรียมไว้ ใช้พายเกลี่ยส่วนผสมจนทั่ว6. อบด้วยอุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียสประมาณ 20 – 25 นาที หรือจนกระทั่งสุก
7. ใช้มีดตัดแบ่ง แล้วนำเค้กมาพักบนตะแกรง ทิ้งไว้สักพัก
8. ทาด้วยบัตเตอร์ครีมหรือแยมจนทั่ว แล้วม้วนเป็นแท่ง
9. ใช้มีดตัดแบ่ง แล้วเสิร์ฟได้เลย
ถ า ด อ บ แ ย ม โ ร ล : ทาด้วยเนยขาว และปูด้วยกระดาษไข
ส่ ว น ผ ส ม บั ต เ ต อ ร์ ค รี ม
๐ เนยสด 800 กรัม
๐ เนยขาว 800 กรัม
๐ นมข้นหวาน 6 กระป๋อง
๐ วานิลลา 1 ช้อนโต๊ะ
๐ เกลือป่น 2 ช้อนชา (นำไปละลายน้ำเล็กน้อย คนให้เกลือป่นละลาย)
วิ ธี ทำ
1. ตีเนยสดกับเนยขาวจนกระทั่งขึ้นฟู
2. ค่อยๆ ใส่นมข้นหวานทีละกระป๋อง ตีให้เข้ากันดีจนหมดนมข้นหวาน
3. เติมน้ำตาล เกลือ และวานิลลา ชิมรสเค็มหวานตามใจชอบ
ห ม า ย เ ห ตุ
• ก่อนทาครีมลองนำเค้กมาม้วนเตรียมไว้ก่อนด้วยผ้าขาวบาง
• เพื่อความสวยงาม ควรเช็ดครีมที่ติดขอบมีดทุกครั้งเวลาตัดแบ่งชิ้นเค้ก
• การชิมครีม ถ้าต้องการรู้รสชาติที่แท้จริง ควรชิมในปริมาณที่พอเหมาะ เพราะถ้าชิมน้อยเกินไปก็จะไม่รู้รสชาติ แต่ถ้าชิมมากเกินไปอาจจะได้รับรสชาติที่เค็มหรือหวานจัดมากเกินไป
• สามารถเติมกาแฟ ชอคโกแลต ฯลฯ เพื่อเพิ่มรสชาติต่างๆ ได้
• ครีมแต่งหน้าเค้กที่มีอัตราส่วนของเนยสดมากๆ จะทำให้ครีมมีรสชาติ อร่อย แต่ถ้าปริมาณของเนยสดมากกว่าเนยขาว ครีมอาจจะละลาย เนื่องจากเนยสดมีคุณสมบัติเป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง . . .
" ลองคิดดูนะว่าสภาพภูมิอากาศอย่างบ้านเราเนี่ยครีมมันจะละลายมั้ย >< "
แหล่งรวมเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำเค้ก พาย ทีรามิสุ ทาร์ตผลไม้ มัลฟิน ค้นหาสูตรวิธีทำ – ขั้นตอนการทำ เค้ก พาย ทีรามิสุ ทาร์ตผลไม้ มัลฟิน
5.19.2009
4.29.2009
ทาร์ตมะนาว
ทาร์ตมะนาว
ของหวานที่ใครได้ลองก็ต้องติดอกติดใจกับรสชาร์ตที่เข้ากันอย่างดี
ส่วนผสมครีมมะนาว
น้ำมะนาว 250 กรัม
ไข่แดง 140 กรัม
ไข่ทั้งฟอง 160 กรัม
น้ำตาล 150 กรัม
เนย 150 กรัม
ส่วนผสมทาร์ต
น้ำตาล 260 กรัม
น้ำฝึ้ง 80 กรัม
น้ำมะนาว 50 กรัม
ผิวมะนาว ผิวส้มเล็กน้อย
น้ำมันพืช 85 กรัม
ครีม 140 กรัม
ไข่ 150 กรัม
ผงฟู 11 กรัม
ส่วนผสมฐานทาร์ต
เนย 50 กรัม
ไอซิ่ง 23 กรัม
ไข่ 15 กรัม
วานิลลาฝัก 0.05 กรัม
แป้งเค้ก 75 กรัม
วิธีทำ
ต้มน้ำมะนาว ไข่แดง ไข่ และน้ำตาลด้วยไฟอ่อนมากๆ
เมื่อส่วนผสมร้อนประมาณ 35-40 องศาเซลเซียสแล้ว
ให้ใส่เนยลงไปตีให้เข้ากัน พักไว้
จากนั้นทำส่วนผสมทาร์ต โดยผสมน้ำตาล น้ำผึ้ง น้ำมะนาว ผิวส้ม มะนาว น้ำมันพืช และครีมเข้าด้วยกัน
ใส่ไข่ ผงฟู และแป้งเค้ก พักไว้
จากนั้นทำฐานทาร์ต โดยตีเนยและไอซิ่งเข้าด้วยกัน
ใส่วานิลลา ไข่ แป้งเค้ก ผสมจนเป็นก้อนขึ้นรูปได้
นำไปกรุแม่พิมพ์ อบในอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส จนเกือบสุก จากนั้นเทส่วนผสมสองอย่างจากด้านบนลงไป
อบต่อที่ความร้อนเท่าเดิมจนสุก
สูตรอาหาร : โรงแรมโอเรียนเต็ล โทร. 0 2659 9000ขนมอร่อยๆ มีให้ทานที่ Author's Loungeชุดน้ำชายามบ่าย หรือ ในเมนูอาหารของห้องอาหารนอร์มังดี
ที่มา: นิตยสาร Livingetc ฉบับภาษาไทย
ของหวานที่ใครได้ลองก็ต้องติดอกติดใจกับรสชาร์ตที่เข้ากันอย่างดี
ส่วนผสมครีมมะนาว
น้ำมะนาว 250 กรัม
ไข่แดง 140 กรัม
ไข่ทั้งฟอง 160 กรัม
น้ำตาล 150 กรัม
เนย 150 กรัม
ส่วนผสมทาร์ต
น้ำตาล 260 กรัม
น้ำฝึ้ง 80 กรัม
น้ำมะนาว 50 กรัม
ผิวมะนาว ผิวส้มเล็กน้อย
น้ำมันพืช 85 กรัม
ครีม 140 กรัม
ไข่ 150 กรัม
ผงฟู 11 กรัม
ส่วนผสมฐานทาร์ต
เนย 50 กรัม
ไอซิ่ง 23 กรัม
ไข่ 15 กรัม
วานิลลาฝัก 0.05 กรัม
แป้งเค้ก 75 กรัม
วิธีทำ
ต้มน้ำมะนาว ไข่แดง ไข่ และน้ำตาลด้วยไฟอ่อนมากๆ
เมื่อส่วนผสมร้อนประมาณ 35-40 องศาเซลเซียสแล้ว
ให้ใส่เนยลงไปตีให้เข้ากัน พักไว้
จากนั้นทำส่วนผสมทาร์ต โดยผสมน้ำตาล น้ำผึ้ง น้ำมะนาว ผิวส้ม มะนาว น้ำมันพืช และครีมเข้าด้วยกัน
ใส่ไข่ ผงฟู และแป้งเค้ก พักไว้
จากนั้นทำฐานทาร์ต โดยตีเนยและไอซิ่งเข้าด้วยกัน
ใส่วานิลลา ไข่ แป้งเค้ก ผสมจนเป็นก้อนขึ้นรูปได้
นำไปกรุแม่พิมพ์ อบในอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส จนเกือบสุก จากนั้นเทส่วนผสมสองอย่างจากด้านบนลงไป
อบต่อที่ความร้อนเท่าเดิมจนสุก
สูตรอาหาร : โรงแรมโอเรียนเต็ล โทร. 0 2659 9000ขนมอร่อยๆ มีให้ทานที่ Author's Loungeชุดน้ำชายามบ่าย หรือ ในเมนูอาหารของห้องอาหารนอร์มังดี
ที่มา: นิตยสาร Livingetc ฉบับภาษาไทย
4.27.2009
เค้กช็อกโกแลตครันชี่ (DOUBLE CHOCOLATE CRUNCHY)
เค้กช็อกโกแลตครันชี่และชาเอิร์ลเกรย์
ด้านในแบ่งเป็น 2 ชั้น ประกอบด้วยมูสช็อกโกแลตนม และครีมช็อกโกแลตดำที่ผสมด้วยชาเอิร์ลเกรย์
เค้กช็อกโกแลตครันชี่และชาเอิร์ลเกรย์ (Double Chocolate Crunchy and Earl Grey Cake) ทำเป็นรูปโดมช็อกโกแลตสีเข้ม จึงให้รสและกลิ่นที่ส่งให้ช็อกโกแลตเกลซ (Chocolate glaze) ที่ทำด้วยผงโกโก้ กลูโคส และเจลาติน ฐานของโดมเป็นแผ่นแป้งกรอบฟลอเรนทีน ที่วางล้อมโดยรอบด้วยช็อกโกแลตตัดเป็นแผ่นด้านบนประดับด้วยทองคำเปลว ช็อกโกแลตขาวรูปหัวใจ และแท่งช็อกโกแลตดำชนิด 58%
บนจานตกแต่งด้วยผลราสพ์เบอร์รี่สด โรยผิวส้ม ถั่วพิสตาชิโอ แล้วราดด้วยซอสมะม่วง อันเป็นรายละเอียดที่พิถีพิถันทั้งรสชาติและความสวยงามและยังเป็นการเอาใจคนชอบช็อกโกแลตด้วยการผสานช็อกโกแลต 5 รส 5 ชนิด ทั้งช็อกโกแลตมูสและครีมรสเข้มข้นที่เป็นส่วนผสมหลักช็อกโกแลต ขาว ดำ และนมให้ได้ชิมครบทุกแบบ DOUBLE CHOCOLATE CRUNCHY AND EARL GREY CAKE เค้กช็อกโกแลตครันชี่และชาเอิร์ลเกรย์ ช็อกโกแลตมูส (Chocolate Mousse)
ส่วนผสม
นมสด 500 กรัม
ครีมสดเหลว 500 กรัม
ไข่แดง 200 กรัม
น้ำตาล 75 กรัม
เจลาติน 22 กรัม
ช็อกโกแลตนม 2,000 กรัม
วิปครีม 2,700 กรัม
วิธีทำ
นำนมสดและครีมสดต้มจนเดือด
จำไข่แดงและน้ำตาลผสมเข้าด้วยกัน เทใส่ในนม และครีมที่เดือดแล้ว ตามด้วยเจลาตินและช็อกโกแลตนม
เมื่อเริ่มอุ่น ค่อยๆ ผสมวิปครีมแล้วคนให้เข้ากัน
ครีมช็อกโกแลต (Chocolate Cream) ส่วนผสม
ชาเอิร์ลเกรย์ 150 กรัม
ครีมสดเหลว 1,200 กรัม
นมสด 1,200 กรัม
น้ำตาล 600 กรัม
ไข่แดง 26 ฟอง
ช็อกโกแลตขม 2,560 กรัม
เจลาติน 16 แผ่น
วิธีทำ
นำครีมสดเหลว นมสด และชาเอิร์ลเกรย์ต้มให้เดือด ทิ้งไว้ให้เย็น หลังจากนั้นกรองใบชาออก
นำไข่แดงและน้ำตาลผสมคนให้เข้ากัน แล้วเทใส่ในครีมสดและนมตามด้วยเจลาตินและช็อกโกแลตขม
ผสมจนเข้ากันแล้วใช้เครื่องปั่น เพื่อให้เนื้อครีมเนียนละเอียด
แผ่นแป้งกรอบ (Crunchy Layer) ส่วนผสม
ถั่วบดละเอียด 1,440 กรัม
ช็อกโกแลตนม 560 กรัม
ทองม้วนบดละเอียด 670 กรัม
วิธีทำ
ช็อกโกแลตมาละลายผสมพราลิเน่ เพสท์
หลังจากนั้นผสมทองม้วนบดละเอียดให้เข้ากันอีกรอบ
บราวนี่ (Brownie) ส่วนผสม
เนย 1,250 กรัม
ช็อกโกแลตขม 700 กรัม
ไข่ 20 ฟอง
กลูโคส 400 กรัม
น้ำตาล 1,000 กรัม
แป้งเค้ก 500 กรัม
ผงโกโก้ 100 กรัม
วอลนัตบด 500 กรัม
พีนัต 500 กรัม
วิธีทำ
นำเนยที่ค่อนข้างเหลวใส่หม้อแล้วตี ตามด้วยน้ำตาลและกลูโคสจากนั้นค่อยๆ หยอดไข่แล้วตามด้วยช็อกโกแลตที่ละลายแล้ว
ใส่ตามด้วยผงโกโก้ แป้งเค้ก ถั่ววอลนัทและพีนัท
นำใส่ถาดอบด้วยไฟ 180 องศาเซลเซียส
วิธีทำก่อนเสิร์ฟ
เตรียมพิมพ์ยางรูปโดมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 7 เซนติเมตร นำดับเบิ้ลช็อกโกแลตหรือครีมช็อกโกแลตใส่ในพิมพ์ 1/2 ของพิมพ์ นำเข้าช่องแข็งประมาณ 20 นาที
จากนั้นนำออกมาแล้วใส่ช็อกโกแลตมูสให้เต็มพิมพ์
นำบราวนี่มาปาดด้วยแผ่นแป้งกรอบ
นำมาตัดด้วยคัตเตอร์รูปวงกลม ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดประมาณ 6.5 เซนติเมตร โดยการกดลงไปบนบราวนี่
นำมาปิดบนช็อกโกแลตมูส แล้วแช่ช่องแข็งประมาณ 6 ชั่วโมง
ที่มา : นิตยสาร Livingetc ฉบับภาษาไทย
ด้านในแบ่งเป็น 2 ชั้น ประกอบด้วยมูสช็อกโกแลตนม และครีมช็อกโกแลตดำที่ผสมด้วยชาเอิร์ลเกรย์
เค้กช็อกโกแลตครันชี่และชาเอิร์ลเกรย์ (Double Chocolate Crunchy and Earl Grey Cake) ทำเป็นรูปโดมช็อกโกแลตสีเข้ม จึงให้รสและกลิ่นที่ส่งให้ช็อกโกแลตเกลซ (Chocolate glaze) ที่ทำด้วยผงโกโก้ กลูโคส และเจลาติน ฐานของโดมเป็นแผ่นแป้งกรอบฟลอเรนทีน ที่วางล้อมโดยรอบด้วยช็อกโกแลตตัดเป็นแผ่นด้านบนประดับด้วยทองคำเปลว ช็อกโกแลตขาวรูปหัวใจ และแท่งช็อกโกแลตดำชนิด 58%
บนจานตกแต่งด้วยผลราสพ์เบอร์รี่สด โรยผิวส้ม ถั่วพิสตาชิโอ แล้วราดด้วยซอสมะม่วง อันเป็นรายละเอียดที่พิถีพิถันทั้งรสชาติและความสวยงามและยังเป็นการเอาใจคนชอบช็อกโกแลตด้วยการผสานช็อกโกแลต 5 รส 5 ชนิด ทั้งช็อกโกแลตมูสและครีมรสเข้มข้นที่เป็นส่วนผสมหลักช็อกโกแลต ขาว ดำ และนมให้ได้ชิมครบทุกแบบ DOUBLE CHOCOLATE CRUNCHY AND EARL GREY CAKE เค้กช็อกโกแลตครันชี่และชาเอิร์ลเกรย์ ช็อกโกแลตมูส (Chocolate Mousse)
ส่วนผสม
นมสด 500 กรัม
ครีมสดเหลว 500 กรัม
ไข่แดง 200 กรัม
น้ำตาล 75 กรัม
เจลาติน 22 กรัม
ช็อกโกแลตนม 2,000 กรัม
วิปครีม 2,700 กรัม
วิธีทำ
นำนมสดและครีมสดต้มจนเดือด
จำไข่แดงและน้ำตาลผสมเข้าด้วยกัน เทใส่ในนม และครีมที่เดือดแล้ว ตามด้วยเจลาตินและช็อกโกแลตนม
เมื่อเริ่มอุ่น ค่อยๆ ผสมวิปครีมแล้วคนให้เข้ากัน
ครีมช็อกโกแลต (Chocolate Cream) ส่วนผสม
ชาเอิร์ลเกรย์ 150 กรัม
ครีมสดเหลว 1,200 กรัม
นมสด 1,200 กรัม
น้ำตาล 600 กรัม
ไข่แดง 26 ฟอง
ช็อกโกแลตขม 2,560 กรัม
เจลาติน 16 แผ่น
วิธีทำ
นำครีมสดเหลว นมสด และชาเอิร์ลเกรย์ต้มให้เดือด ทิ้งไว้ให้เย็น หลังจากนั้นกรองใบชาออก
นำไข่แดงและน้ำตาลผสมคนให้เข้ากัน แล้วเทใส่ในครีมสดและนมตามด้วยเจลาตินและช็อกโกแลตขม
ผสมจนเข้ากันแล้วใช้เครื่องปั่น เพื่อให้เนื้อครีมเนียนละเอียด
แผ่นแป้งกรอบ (Crunchy Layer) ส่วนผสม
ถั่วบดละเอียด 1,440 กรัม
ช็อกโกแลตนม 560 กรัม
ทองม้วนบดละเอียด 670 กรัม
วิธีทำ
ช็อกโกแลตมาละลายผสมพราลิเน่ เพสท์
หลังจากนั้นผสมทองม้วนบดละเอียดให้เข้ากันอีกรอบ
บราวนี่ (Brownie) ส่วนผสม
เนย 1,250 กรัม
ช็อกโกแลตขม 700 กรัม
ไข่ 20 ฟอง
กลูโคส 400 กรัม
น้ำตาล 1,000 กรัม
แป้งเค้ก 500 กรัม
ผงโกโก้ 100 กรัม
วอลนัตบด 500 กรัม
พีนัต 500 กรัม
วิธีทำ
นำเนยที่ค่อนข้างเหลวใส่หม้อแล้วตี ตามด้วยน้ำตาลและกลูโคสจากนั้นค่อยๆ หยอดไข่แล้วตามด้วยช็อกโกแลตที่ละลายแล้ว
ใส่ตามด้วยผงโกโก้ แป้งเค้ก ถั่ววอลนัทและพีนัท
นำใส่ถาดอบด้วยไฟ 180 องศาเซลเซียส
วิธีทำก่อนเสิร์ฟ
เตรียมพิมพ์ยางรูปโดมที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 7 เซนติเมตร นำดับเบิ้ลช็อกโกแลตหรือครีมช็อกโกแลตใส่ในพิมพ์ 1/2 ของพิมพ์ นำเข้าช่องแข็งประมาณ 20 นาที
จากนั้นนำออกมาแล้วใส่ช็อกโกแลตมูสให้เต็มพิมพ์
นำบราวนี่มาปาดด้วยแผ่นแป้งกรอบ
นำมาตัดด้วยคัตเตอร์รูปวงกลม ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดประมาณ 6.5 เซนติเมตร โดยการกดลงไปบนบราวนี่
นำมาปิดบนช็อกโกแลตมูส แล้วแช่ช่องแข็งประมาณ 6 ชั่วโมง
ที่มา : นิตยสาร Livingetc ฉบับภาษาไทย
กรีนที เค้ก
กรีนที เค้ก
ส่วนผสม
ไข่ไก่ 3 ฟอง
แป้งเค้ก 100 กรัม
ผงชาเขียว 20 กรัม
น้ำตาลทราย 175 กรัม
น้ำมันสลัด 80 กรัม
ผงฟู 5 กรัม
เกลือ 5 กรัม
น้ำ 80 กรัม
ส่วนผสมครีม
ครีมข้น 500 กรัม
ผงชาเขียว 20 กรัม
วิธีทำ
1. แยกไข่แดง ไข่ขาว นำไข่แดง แป้ง ผงชา น้ำ น้ำมัน เกลือ ผงฟู น้ำตาล (100 กรัม) ผสมให้เข้ากัน ทิ้งไว้
2. นำไข่ขาวไปตีกับน้ำตาล (75 กรัม) ให้ขึ้นฟู ผสมกับส่วนของไข่แดง
3. เทใส่พิมพ์นำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 นาที ทิ้งให้เย็น
4. นำออกมาสไลซ์ 3 ชั้น ตามขวาง นำครีมปาดทุกชั้น
5. ส่วนของครีม ให้นำครีมข้นมาตีให้ฟู นำผงชาเขียวละลายน้ำมาผสม จะได้ครีมชาเขียวสำหรับปาดแต่งเค้ก
ส่วนผสม
ไข่ไก่ 3 ฟอง
แป้งเค้ก 100 กรัม
ผงชาเขียว 20 กรัม
น้ำตาลทราย 175 กรัม
น้ำมันสลัด 80 กรัม
ผงฟู 5 กรัม
เกลือ 5 กรัม
น้ำ 80 กรัม
ส่วนผสมครีม
ครีมข้น 500 กรัม
ผงชาเขียว 20 กรัม
วิธีทำ
1. แยกไข่แดง ไข่ขาว นำไข่แดง แป้ง ผงชา น้ำ น้ำมัน เกลือ ผงฟู น้ำตาล (100 กรัม) ผสมให้เข้ากัน ทิ้งไว้
2. นำไข่ขาวไปตีกับน้ำตาล (75 กรัม) ให้ขึ้นฟู ผสมกับส่วนของไข่แดง
3. เทใส่พิมพ์นำไปอบที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 นาที ทิ้งให้เย็น
4. นำออกมาสไลซ์ 3 ชั้น ตามขวาง นำครีมปาดทุกชั้น
5. ส่วนของครีม ให้นำครีมข้นมาตีให้ฟู นำผงชาเขียวละลายน้ำมาผสม จะได้ครีมชาเขียวสำหรับปาดแต่งเค้ก
4.24.2009
ซาเชอร์ เค้ก
ซาเชอร์ เค้ก
(Sacher Cake)
ส่วนผสม (2 ปอนด์)
ไข่ไก่ 3 ฟอง
แป้งเค้ก 100 กรัม
น้ำตาลทราย 175 กรัม
ผงโกโก้ 20 กรัม
น้ำมันสลัด 80 กรัม
ผงฟู 5 กรัม
เกลือ 5 กรัม
น้ำ 80 กรัม
แยมสตรอว์เบอร์รี่ 200 กรัม
ส่วนผสมของครีม
ช็อกโกแลตเข้มข้น 500 กรัม
วิปปิ้งครีม 250 กรัม
วิธีทำ
1. เตรียมเนื้อเค้กโดยนำไข่มาแยก นำไข่แดงผสมด้วยแป้งเค้ก เกลือ น้ำตาล (100 กรัม) น้ำ น้ำมัน ผงฟู และผงโกโก้ คนให้เข้ากันแล้วพักไว้
2. ส่วนของไข่ขาวผสมด้วยน้ำตาล (75 กรัม) ตีให้ขึ้นฟู แล้วนำไปผสมกับส่วนของไข่แดงให้เข้ากัน
3. นำไปเทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำไปอบด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 นาที
4. ทิ้งไว้ให้เย็นนำมาสไลซ์ออกเป็น 3 ชั้น ตามขวาง แต่ละชั้นนำแยมสตรอว์เบอร์รี่มาปากทำไส้
5. ต้มวิปปิ้งนำช็อกโกแลตผสมพอเย็น ให้ปาดหน้าเค้ก
(Sacher Cake)
ส่วนผสม (2 ปอนด์)
ไข่ไก่ 3 ฟอง
แป้งเค้ก 100 กรัม
น้ำตาลทราย 175 กรัม
ผงโกโก้ 20 กรัม
น้ำมันสลัด 80 กรัม
ผงฟู 5 กรัม
เกลือ 5 กรัม
น้ำ 80 กรัม
แยมสตรอว์เบอร์รี่ 200 กรัม
ส่วนผสมของครีม
ช็อกโกแลตเข้มข้น 500 กรัม
วิปปิ้งครีม 250 กรัม
วิธีทำ
1. เตรียมเนื้อเค้กโดยนำไข่มาแยก นำไข่แดงผสมด้วยแป้งเค้ก เกลือ น้ำตาล (100 กรัม) น้ำ น้ำมัน ผงฟู และผงโกโก้ คนให้เข้ากันแล้วพักไว้
2. ส่วนของไข่ขาวผสมด้วยน้ำตาล (75 กรัม) ตีให้ขึ้นฟู แล้วนำไปผสมกับส่วนของไข่แดงให้เข้ากัน
3. นำไปเทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้ นำไปอบด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส ประมาณ 35 นาที
4. ทิ้งไว้ให้เย็นนำมาสไลซ์ออกเป็น 3 ชั้น ตามขวาง แต่ละชั้นนำแยมสตรอว์เบอร์รี่มาปากทำไส้
5. ต้มวิปปิ้งนำช็อกโกแลตผสมพอเย็น ให้ปาดหน้าเค้ก
4.20.2009
คุกกี้สอดไส้สับปะรด
คุกกี้สอดไส้สับปะรด
ส่วนผสม
สับปะรดสับละเอียด 500 กรัม
น้ำตาลทราย 200 กรัม
น้ำ 1/2 ถ้วย
แบะแซ 15 กรัม
วิธีทำตัวไส้สัปปะรด
1. ผสมสับปะรด น้ำ น้ำตาล ใส่กระทะทองเหลือง กวนให้น้ำงวด
2. ใส่แบะแซ กวนต่อจนเหนียว ยกลงพักให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม
ส่วนผสม
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 500 กรัม
เนยสด 200 กรัม
มาการีน 100 กรัม
ผงฟู 5 กรัม
น้ำตาลทรายป่น 180 กรัม
ไข่ไก่ 50 กรัม
เกลือป่น 2 กรัม
วิธีทำ
1. ผสมแป้ง ผงฟู ร่อนรวมกัน 1 ครั้ง
2. ผสมเนยกับมาการีน ใส่เกลือ ตีให้เนยขึ้นฟู โดยใช้ความเร็วปานกลาง ใส่น้ำตาลทรายป่นตีต่อจนน้ำตาลหมด ใส่ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน ลดความเร็วต่ำใส่แป้งผสมให้เข้ากัน พักแป้งในตู้เย็น 30 นาที
3. นำแป้งมาแผ่เป็นแผ่นกลม วางไส้ตรงกลาง หุ้มแป้งให้มิดไส้ กดขนมเบา ๆ บนพิมพ์ครองแครง เพื่อให้ขนมเป็นลาย วางบนถาดที่ทาเนยขาว อบไฟ 300 องศาฟาเรนไฮต์ เวลา 10 นาที
ส่วนผสม
สับปะรดสับละเอียด 500 กรัม
น้ำตาลทราย 200 กรัม
น้ำ 1/2 ถ้วย
แบะแซ 15 กรัม
วิธีทำตัวไส้สัปปะรด
1. ผสมสับปะรด น้ำ น้ำตาล ใส่กระทะทองเหลือง กวนให้น้ำงวด
2. ใส่แบะแซ กวนต่อจนเหนียว ยกลงพักให้เย็น ปั้นเป็นก้อนกลม
ส่วนผสม
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 500 กรัม
เนยสด 200 กรัม
มาการีน 100 กรัม
ผงฟู 5 กรัม
น้ำตาลทรายป่น 180 กรัม
ไข่ไก่ 50 กรัม
เกลือป่น 2 กรัม
วิธีทำ
1. ผสมแป้ง ผงฟู ร่อนรวมกัน 1 ครั้ง
2. ผสมเนยกับมาการีน ใส่เกลือ ตีให้เนยขึ้นฟู โดยใช้ความเร็วปานกลาง ใส่น้ำตาลทรายป่นตีต่อจนน้ำตาลหมด ใส่ไข่ไก่ตีให้เข้ากัน ลดความเร็วต่ำใส่แป้งผสมให้เข้ากัน พักแป้งในตู้เย็น 30 นาที
3. นำแป้งมาแผ่เป็นแผ่นกลม วางไส้ตรงกลาง หุ้มแป้งให้มิดไส้ กดขนมเบา ๆ บนพิมพ์ครองแครง เพื่อให้ขนมเป็นลาย วางบนถาดที่ทาเนยขาว อบไฟ 300 องศาฟาเรนไฮต์ เวลา 10 นาที
4.12.2009
เค้กคัสตาร์ด
เค้กคัสตาร์ด
การเตรียมน้ำตาลไหม้
นำน้ำตาลใส่พิมพ์ ตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลยกลงพักไว้ส่วนผสมคัสตาร์ด
นมข้นจืดระเหย 400 กรัม
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
ไข่แดง ไข่ไก่ 10 ฟอง
วานิลา 1 ช้อนชา
วิธีทำผสมนมกับน้ำตาลทราย คนให้ละลาย ใส่ไข่แดง วานิลา คนให้เข้ากัน กรองด้วยที่ร่อนแป้ง ตักใส่พิมพ์ที่มีน้ำตาลไหม้ 1/2 ของพิมพ์
ส่วนผสมตัวเค้ก
แป้งเค้ก 180 กรัม
เกลือป่น 3 กรัม
ผงฟู 5 กรัม
น้ำตาลทราย 130 กรัม
ไข่แดงไข่ไก่ 4 ฟอง
น้ำ 100 กรัม
น้ำมันพืช 100 กรัม
วานิลา 1 ช้อนชา
ไข่ขาว 250 กรัม
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 150 กรัม
วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ รวมกันใส่น้ำตาล (130 กรัม) คนให้เข้ากัน
2. ผสมน้ำ น้ำมันพืช ไข่แดง วานิลา คนให้เข้ากัน
3. ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูด้วยความเร็วสูงสุดของเครื่อง ใส่น้ำมะนาว น้ำตาลทราย (150 กรัม) ตีต่อจนฟูขาวตั้งยอดอ่อน
4. นำส่วนผสมข้อ 2 ใส่ในส่วนผสมข้อ 1 คนให้เข้ากัน ใส่ไข่ขาวที่ตีตะล่อมให้เข้ากัน ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ที่มีคัสตาร์ด 1/2 ของพิมพ์ วางในถาดอบ ใส่น้ำในถาด 1/2 ของถาด
5. อบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ จนขนมสุก
การเตรียมน้ำตาลไหม้
นำน้ำตาลใส่พิมพ์ ตั้งไฟให้น้ำตาลละลาย เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลยกลงพักไว้ส่วนผสมคัสตาร์ด
นมข้นจืดระเหย 400 กรัม
น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
ไข่แดง ไข่ไก่ 10 ฟอง
วานิลา 1 ช้อนชา
วิธีทำผสมนมกับน้ำตาลทราย คนให้ละลาย ใส่ไข่แดง วานิลา คนให้เข้ากัน กรองด้วยที่ร่อนแป้ง ตักใส่พิมพ์ที่มีน้ำตาลไหม้ 1/2 ของพิมพ์
ส่วนผสมตัวเค้ก
แป้งเค้ก 180 กรัม
เกลือป่น 3 กรัม
ผงฟู 5 กรัม
น้ำตาลทราย 130 กรัม
ไข่แดงไข่ไก่ 4 ฟอง
น้ำ 100 กรัม
น้ำมันพืช 100 กรัม
วานิลา 1 ช้อนชา
ไข่ขาว 250 กรัม
น้ำมะนาว 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 150 กรัม
วิธีทำ
1. ร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ รวมกันใส่น้ำตาล (130 กรัม) คนให้เข้ากัน
2. ผสมน้ำ น้ำมันพืช ไข่แดง วานิลา คนให้เข้ากัน
3. ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูด้วยความเร็วสูงสุดของเครื่อง ใส่น้ำมะนาว น้ำตาลทราย (150 กรัม) ตีต่อจนฟูขาวตั้งยอดอ่อน
4. นำส่วนผสมข้อ 2 ใส่ในส่วนผสมข้อ 1 คนให้เข้ากัน ใส่ไข่ขาวที่ตีตะล่อมให้เข้ากัน ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ที่มีคัสตาร์ด 1/2 ของพิมพ์ วางในถาดอบ ใส่น้ำในถาด 1/2 ของถาด
5. อบไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ จนขนมสุก
3.20.2009
สปองเค้กมะม่วง
สปองเค้กมะม่วง
ส่วนประกอบ
* แป้งเค้ก 67 กรัม
* แป้งข้าวโพด 7 กรัม
* ผงฟู 0.8 กรัม
* โอวาเลท 7 กรัม
* เนยละลาย 12.5 กรัม
* นม 21 กรัม
* น้ำตาล 67 กรัม
* กลิ่นวานิลลา 0.8 กรัม
* แอพริคอทเจลสำเร็จรูป 60 กรัม
* วิปปิ้งครีม, เนื้อมะม่วงสุก
ส่วนประกอบและวิธีเตรียมครีม
1. ตีวิปปิ้งครีมให้เนื้อเนียนขึ้นฟูประมาณ 5 นาที พร้อมแต่งหน้าได้ทันทีวิธีเตรียมแอพริคอทเจล
2.นำแอพริคอทเจลสำเร็จรูปไปต้มโดยผสมน้ำเปล่าลงไป เมื่อแอพริคอทเจลได้ที่จะมีลักษณะวาวเหนียว ใช้แต่งหน้าได้ทันที
3. นำแป้งเค้ก, แป้งข้าวโพด, ผงฟู, โอวาเลท, นม, น้ำตาล และกลิ่นวานิลลา มาตีรวกัน ในเครื่องปั่นโดยใช้ความเร็วปานกลาง
4.เมื่อส่วนผสมของเนื้อเค้กเริ่มเนียนแล้วจึงค่อยๆ ใส่เนยละลายลงปั่นสักพักให้เข้ากัน
5. นำเนื้อเค้กที่ตีจนเนียนเทใส่พิมพ์โดยทาเนยไว้ให้ทั่ว จากนั้นนำเข้าเตาอบประมาณ 30 นาที ใช้ความร้อนประมาณ 160 องศาเซลเซียส
6.เมื่อเนื้อเค้กอบได้ที่แล้วจึงเคาะออกจากพิมพ์แต่งหน้าด้วยครีมและเนื้อผลไม้สดตามความชอบ
7. ตกแต่งชิ้นผลไม้สดด้วยแอพริคอทเจลอุ่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติและหน้าตาสปองเค้กให้ดูชุ่มฉ่ำน่ารับประทาน
ส่วนประกอบ
* แป้งเค้ก 67 กรัม
* แป้งข้าวโพด 7 กรัม
* ผงฟู 0.8 กรัม
* โอวาเลท 7 กรัม
* เนยละลาย 12.5 กรัม
* นม 21 กรัม
* น้ำตาล 67 กรัม
* กลิ่นวานิลลา 0.8 กรัม
* แอพริคอทเจลสำเร็จรูป 60 กรัม
* วิปปิ้งครีม, เนื้อมะม่วงสุก
ส่วนประกอบและวิธีเตรียมครีม
1. ตีวิปปิ้งครีมให้เนื้อเนียนขึ้นฟูประมาณ 5 นาที พร้อมแต่งหน้าได้ทันทีวิธีเตรียมแอพริคอทเจล
2.นำแอพริคอทเจลสำเร็จรูปไปต้มโดยผสมน้ำเปล่าลงไป เมื่อแอพริคอทเจลได้ที่จะมีลักษณะวาวเหนียว ใช้แต่งหน้าได้ทันที
3. นำแป้งเค้ก, แป้งข้าวโพด, ผงฟู, โอวาเลท, นม, น้ำตาล และกลิ่นวานิลลา มาตีรวกัน ในเครื่องปั่นโดยใช้ความเร็วปานกลาง
4.เมื่อส่วนผสมของเนื้อเค้กเริ่มเนียนแล้วจึงค่อยๆ ใส่เนยละลายลงปั่นสักพักให้เข้ากัน
5. นำเนื้อเค้กที่ตีจนเนียนเทใส่พิมพ์โดยทาเนยไว้ให้ทั่ว จากนั้นนำเข้าเตาอบประมาณ 30 นาที ใช้ความร้อนประมาณ 160 องศาเซลเซียส
6.เมื่อเนื้อเค้กอบได้ที่แล้วจึงเคาะออกจากพิมพ์แต่งหน้าด้วยครีมและเนื้อผลไม้สดตามความชอบ
7. ตกแต่งชิ้นผลไม้สดด้วยแอพริคอทเจลอุ่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติและหน้าตาสปองเค้กให้ดูชุ่มฉ่ำน่ารับประทาน
2.12.2009
Laurie Colwin’s Happy Winter Fudge Cake
Laurie Colwin’s Happy Winter Fudge Cake
adapted from More Home Cooking - I rearranged the method a bit and increased the cocoa - I’m sure Laurie wouldn’t mind.
3 oz. semisweet chocolate (or about 2/3 cup chocolate chips)
1/4 cup butter
2 large eggs
1 1/2 cups plain yogurt
1 tsp. vanilla
2 cups all-purpose flour
1 cup sugar
1/4 cup cocoa
1 tsp. baking powder
1 tsp. baking soda
1 cup chocolate chips
Preheat the oven to 350F and spray a Bundt pan well with nonstick spray. In a small pan, melt the chocolate and butter. In a large bowl, stir together the eggs, yogurt and vanilla. Cool the chocolate mixture slightly and stir into the yogurt mixture.
In a small bowl, stir together the flour, sugar, cocoa, baking powder and baking soda; stir into the wet ingredients, then stir in the chocolate chips (nuts would be good too). Scrape into the Bundt pan and bake for 40-45 minutes, until the top is cracked and springy to the touch. Let cool for a few minutes, then turn out onto a wire rack (do this while it’s still warm - it will come out easier) to cool.
adapted from More Home Cooking - I rearranged the method a bit and increased the cocoa - I’m sure Laurie wouldn’t mind.
3 oz. semisweet chocolate (or about 2/3 cup chocolate chips)
1/4 cup butter
2 large eggs
1 1/2 cups plain yogurt
1 tsp. vanilla
2 cups all-purpose flour
1 cup sugar
1/4 cup cocoa
1 tsp. baking powder
1 tsp. baking soda
1 cup chocolate chips
Preheat the oven to 350F and spray a Bundt pan well with nonstick spray. In a small pan, melt the chocolate and butter. In a large bowl, stir together the eggs, yogurt and vanilla. Cool the chocolate mixture slightly and stir into the yogurt mixture.
In a small bowl, stir together the flour, sugar, cocoa, baking powder and baking soda; stir into the wet ingredients, then stir in the chocolate chips (nuts would be good too). Scrape into the Bundt pan and bake for 40-45 minutes, until the top is cracked and springy to the touch. Let cool for a few minutes, then turn out onto a wire rack (do this while it’s still warm - it will come out easier) to cool.
2.06.2009
บลูเบอรี่ชีทพาย
บลูเบอรี่ชีทพาย
พายบลูเบอรี่ (สำหรับ 8 - 10 ท่าน)
ส่วนผสม
1. แครกเกอร์ (ของริชก็ได้ค่ะ หรือ ของอะไรก็ได้) ประมาณ ครึ่งกล่อง
2. บลูเบอรี่ 1 กระป๋อง (ยี่ห้ออะไร ก็ได้)
3. ครีมชีท (ฟีลาเดเฟีย) 1/2 ก้อน
3. น้ำมะนาว 1-2 ลูก
4. นมข้นหวาน (ตราหมี)
5. น้ำเปล่า
6. ถาดฟรอย
7. เนยชนิด เค็ม หรือ จืด ก็ได้ 1/2 ก้อน
8. เจลลาติน 1 แผ่น
9. เครื่องปั่นอเนกประสงค์
วิธีทำ
1. บดแครกเกอร์ให้ละเอียด (ถ้าไม่มีที่บดเป็นไม้ๆ ใช้ครก ตำเลยได้ค่ะ)
2. นำเนยไปละลายในหม้อ ใช้ไฟอ่อนๆ แล้วก็คนเรื่อยๆ จนเหลว หรือ นำเข้าไมโครเวฟไปเลยก็ได้ค่ะ
3. นำเนยที่ได้ มาเทใส่แครกเกอร์ที่บดไว้ แล้วคลุกให้แครกเกอร์จับตัวกัน (ลักษณะคล้ายๆ ทรายที่เปียกน้ำ)4. นำแครกเกอร์ไปใส่ในถาดฟรอย กดให้แน่นๆ แล้วนำเข้าช่อง Freez ในตู้เย็น
5. นำครีมชีท ไปใส่ในเครื่อปั่น พร้อมใส่น้ำลงไปเล็กน้อย (ย้ำว่าเล็กน้อย ไม่งั้นมันจะเหลว) เพื่อไม่ให้มันฝืดเวลาปั่น จากนั้นเทน้ำมะนาวลงไป พร้อมกับนมข้นแล้วปั่นให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
6. จากนั้นนำเจลลาติน ใส่น้ำเล็กน้อยเพื่อให้ไม่แข็งเป็นแผ่น แล้วนำไปใส่ในเครื่องปั่น แล้วปั่นให้เข้ากัน
7. สังเกตุให้ครีมมันข้นๆ โดยการนำช้อนหรืออะไรก็ได้ ไปตัก ให้ครีมมันหยดช้าที่สุด เท่าที่จะทำได้
8. นำครีมชีทที่ได้ มาเทใส่ในถ้วยฟรอยที่แช่ไว้
9. นำไปแช่แข็งอีกครั้ง
10. เมื่อครีมชีทเซตตัว ให้นำบลูเบอรี่ มาตักใส่ไปบนหน้าขนม เท่านี้ แล้วนำไปแช่อีกครั้ง เมื่อต้องการรับประทานเย็นๆ เท่านี้ก็เรียบร้อยหมายเหตุนมข้นและมะนาวนั้น แล้วแต่คนชอบ ถ้าชอบหวานก็ใส่นมข้นเยอะหน่อย ถ้าชอบอมเปรี้ยวๆ ก็ใส่มะนาวเยอะหน่อยค่ะ
พายบลูเบอรี่ (สำหรับ 8 - 10 ท่าน)
ส่วนผสม
1. แครกเกอร์ (ของริชก็ได้ค่ะ หรือ ของอะไรก็ได้) ประมาณ ครึ่งกล่อง
2. บลูเบอรี่ 1 กระป๋อง (ยี่ห้ออะไร ก็ได้)
3. ครีมชีท (ฟีลาเดเฟีย) 1/2 ก้อน
3. น้ำมะนาว 1-2 ลูก
4. นมข้นหวาน (ตราหมี)
5. น้ำเปล่า
6. ถาดฟรอย
7. เนยชนิด เค็ม หรือ จืด ก็ได้ 1/2 ก้อน
8. เจลลาติน 1 แผ่น
9. เครื่องปั่นอเนกประสงค์
วิธีทำ
1. บดแครกเกอร์ให้ละเอียด (ถ้าไม่มีที่บดเป็นไม้ๆ ใช้ครก ตำเลยได้ค่ะ)
2. นำเนยไปละลายในหม้อ ใช้ไฟอ่อนๆ แล้วก็คนเรื่อยๆ จนเหลว หรือ นำเข้าไมโครเวฟไปเลยก็ได้ค่ะ
3. นำเนยที่ได้ มาเทใส่แครกเกอร์ที่บดไว้ แล้วคลุกให้แครกเกอร์จับตัวกัน (ลักษณะคล้ายๆ ทรายที่เปียกน้ำ)4. นำแครกเกอร์ไปใส่ในถาดฟรอย กดให้แน่นๆ แล้วนำเข้าช่อง Freez ในตู้เย็น
5. นำครีมชีท ไปใส่ในเครื่อปั่น พร้อมใส่น้ำลงไปเล็กน้อย (ย้ำว่าเล็กน้อย ไม่งั้นมันจะเหลว) เพื่อไม่ให้มันฝืดเวลาปั่น จากนั้นเทน้ำมะนาวลงไป พร้อมกับนมข้นแล้วปั่นให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
6. จากนั้นนำเจลลาติน ใส่น้ำเล็กน้อยเพื่อให้ไม่แข็งเป็นแผ่น แล้วนำไปใส่ในเครื่องปั่น แล้วปั่นให้เข้ากัน
7. สังเกตุให้ครีมมันข้นๆ โดยการนำช้อนหรืออะไรก็ได้ ไปตัก ให้ครีมมันหยดช้าที่สุด เท่าที่จะทำได้
8. นำครีมชีทที่ได้ มาเทใส่ในถ้วยฟรอยที่แช่ไว้
9. นำไปแช่แข็งอีกครั้ง
10. เมื่อครีมชีทเซตตัว ให้นำบลูเบอรี่ มาตักใส่ไปบนหน้าขนม เท่านี้ แล้วนำไปแช่อีกครั้ง เมื่อต้องการรับประทานเย็นๆ เท่านี้ก็เรียบร้อยหมายเหตุนมข้นและมะนาวนั้น แล้วแต่คนชอบ ถ้าชอบหวานก็ใส่นมข้นเยอะหน่อย ถ้าชอบอมเปรี้ยวๆ ก็ใส่มะนาวเยอะหน่อยค่ะ
2.04.2009
พายถั่วแดง
พายถั่วแดงเป็นขนมที่มีความอร่อยอยู่ที่แป้งพายเป็นชั้น กรอบนอก นุ่มใน หอมถั่วแดง
วิธีทำแป้งพายให้เป็นชั้นและกรอบขึ้นอยู่กับเพสตรี้มาการีน ต้องเลือกใช้ที่มีคุณภาพ เมื่อขยำแล้วจะนุ่มเหนียวมือ ไม่เลอะติดมือ เวลาคลึงแป้ง เพสตรี้มาการีนจะไม่ทะลักออกมา หรือไม่แข็งเกินไปจนแป้งฉีกขาดขณะคลึงแป้งควรใช้เนยขาวช่วยเพื่อไม่ให้แป้งติดพื้นและไม้คลึง เมื่อกรุแป้งพายลงในพิมพ์ต้องจิ้มก้นแป้งพายด้วยไม้แหลม เพราะเวลาอบแป้งพายจะไม่พอง เมื่อใส่ไส้และปิดหน้าด้วยแป้งพาย ให้ทาไข่แดงเฉพาะด้านบนเท่านั้น หากทาด้านริม แป้งพายจะไม่เป็นชั้น นอกจากนี้ต้องจุดไฟเตาอบไว้ให้ได้ความร้อนอุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์ เมื่อทำพายเสร็จนำเข้าอบจนแป้งพายขยายอยู่ตัวและมีสีเหลืองทั่ว จึงลดอุณหภูมิลงเหลือง 375 องศาฟาเรนไฮต์ แป้งพายจะมีสีเหลือง กรอบนอก นุ่มใน
ส่วนผสม
ถั่วแดงหลวงแช่น้ำ 1 คืน 3/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ต้มถั่วแดงให้เปื่อยนุ่ม บดให้ละเอียด กวนกับน้ำมันพองวด ใส่น้ำตาล กวนต่อจนแห้งพอปั้นได้
ส่วนผสมแป้งพาย
แป้งขนมปัง 300 กรัม
แป้งเค้ก 180 กรัม
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชาไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 1 ฟอง
น้ำเย็น 280 กรัม
เพสตรี้มาการีน 180 กรัม
วิธีทำ
1.ผสมแป้งทั้งสองชนิดกับน้ำตาล เกลือ ไข่แดงให้เข้ากัน ค่อยๆ ใส่น้ำเย็นจนหมด นวดจนแป้งเนียน คลึงเป็นแผ่นบาง แบ่งเป็น 3 ส่วน
2.วางเพสตรี้มาการีนบนแป้งส่วนที่ 1 และส่วนที่ 3 เกลี่ยให้ทั่ว เหลือขอบไว้ 1/2 ซม.
3.พับแป้งส่วนที่ 1 ทับส่วนที่ 2 แล้วพับแป้งส่วนที่ 3 ทับส่วนที่ 1 บีบริมแป้งให้ติดกัน คลึงเป็นแผ่นบางแล้วพับเหมือนเดิม คลุกแป้งด้วยแผ่นพลาสติกไว้ 30 นาทีไม่ให้แป้งแห้ง
4.คลึงแป้งในข้อ 2 เป็นแผ่นหนา 1/2 ซม. ตัดเป็นรูปตามต้องการ ตักไส้ใส่ ปิดทับด้วยแป้ง ทาไข่แดงให้ทั่ว อบไฟ 400 องศาฟาเรนไฮต์ประมาณ 10 นาทีจึงลดไฟอ่อน อบต่อจนสุกเหลือง เสิร์ฟกับชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มสมุนไพร
วิธีทำแป้งพายให้เป็นชั้นและกรอบขึ้นอยู่กับเพสตรี้มาการีน ต้องเลือกใช้ที่มีคุณภาพ เมื่อขยำแล้วจะนุ่มเหนียวมือ ไม่เลอะติดมือ เวลาคลึงแป้ง เพสตรี้มาการีนจะไม่ทะลักออกมา หรือไม่แข็งเกินไปจนแป้งฉีกขาดขณะคลึงแป้งควรใช้เนยขาวช่วยเพื่อไม่ให้แป้งติดพื้นและไม้คลึง เมื่อกรุแป้งพายลงในพิมพ์ต้องจิ้มก้นแป้งพายด้วยไม้แหลม เพราะเวลาอบแป้งพายจะไม่พอง เมื่อใส่ไส้และปิดหน้าด้วยแป้งพาย ให้ทาไข่แดงเฉพาะด้านบนเท่านั้น หากทาด้านริม แป้งพายจะไม่เป็นชั้น นอกจากนี้ต้องจุดไฟเตาอบไว้ให้ได้ความร้อนอุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์ เมื่อทำพายเสร็จนำเข้าอบจนแป้งพายขยายอยู่ตัวและมีสีเหลืองทั่ว จึงลดอุณหภูมิลงเหลือง 375 องศาฟาเรนไฮต์ แป้งพายจะมีสีเหลือง กรอบนอก นุ่มใน
ส่วนผสม
ถั่วแดงหลวงแช่น้ำ 1 คืน 3/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
ต้มถั่วแดงให้เปื่อยนุ่ม บดให้ละเอียด กวนกับน้ำมันพองวด ใส่น้ำตาล กวนต่อจนแห้งพอปั้นได้
ส่วนผสมแป้งพาย
แป้งขนมปัง 300 กรัม
แป้งเค้ก 180 กรัม
น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชาไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) 1 ฟอง
น้ำเย็น 280 กรัม
เพสตรี้มาการีน 180 กรัม
วิธีทำ
1.ผสมแป้งทั้งสองชนิดกับน้ำตาล เกลือ ไข่แดงให้เข้ากัน ค่อยๆ ใส่น้ำเย็นจนหมด นวดจนแป้งเนียน คลึงเป็นแผ่นบาง แบ่งเป็น 3 ส่วน
2.วางเพสตรี้มาการีนบนแป้งส่วนที่ 1 และส่วนที่ 3 เกลี่ยให้ทั่ว เหลือขอบไว้ 1/2 ซม.
3.พับแป้งส่วนที่ 1 ทับส่วนที่ 2 แล้วพับแป้งส่วนที่ 3 ทับส่วนที่ 1 บีบริมแป้งให้ติดกัน คลึงเป็นแผ่นบางแล้วพับเหมือนเดิม คลุกแป้งด้วยแผ่นพลาสติกไว้ 30 นาทีไม่ให้แป้งแห้ง
4.คลึงแป้งในข้อ 2 เป็นแผ่นหนา 1/2 ซม. ตัดเป็นรูปตามต้องการ ตักไส้ใส่ ปิดทับด้วยแป้ง ทาไข่แดงให้ทั่ว อบไฟ 400 องศาฟาเรนไฮต์ประมาณ 10 นาทีจึงลดไฟอ่อน อบต่อจนสุกเหลือง เสิร์ฟกับชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มสมุนไพร
2.02.2009
Mocca cake with toasted almonds
Mocca cake with toasted almonds
The sponge base:
6 free-range medium eggs
300 ml golden caster sugar
300 ml plain flour, sifted
2.5 tsp baking powder
For moistening the base:
150-200 ml coffee, sweetened ja cooled (season with booze, if you wish)
The mocca cream:
500 ml whipped cream
2 Tbsp good quality instant coffee granules
2 Tbsp caster sugar or to taste
For decorating:
almond flakes, toasted
1.Whisk the eggs with sugar until thick and pale - about 10 minutes. Fold in sifted flour and baking powder and mix gently until combined.
2.Pour the batter into a lined and buttered swiss roll tin and bake at 200˚C until golden brown and well risen - about 20 minutes.
3.Let the sponge cool on a metal rack, then cut into two layers.
4.To make the mocca cream, dilute the coffee granules in a couple of spoonfuls of cream. Add the rest of the cream and sugar and whip until soft peaks form.
5.Moisten the bottom sponge layer with some coffee, then spread just slightly less than half of the cream onto the cake. [I sometimes mix some curd cheese or fromage fraiche into this mixture, just to make it firmer and more substantial]6.Cover with the other sponge layer, moisten again with some coffee and spread the rest of the cream to the top and onto the sides of the cake.
7.Sprinkle with toasted and cooled almond flakes.
The sponge base:
6 free-range medium eggs
300 ml golden caster sugar
300 ml plain flour, sifted
2.5 tsp baking powder
For moistening the base:
150-200 ml coffee, sweetened ja cooled (season with booze, if you wish)
The mocca cream:
500 ml whipped cream
2 Tbsp good quality instant coffee granules
2 Tbsp caster sugar or to taste
For decorating:
almond flakes, toasted
1.Whisk the eggs with sugar until thick and pale - about 10 minutes. Fold in sifted flour and baking powder and mix gently until combined.
2.Pour the batter into a lined and buttered swiss roll tin and bake at 200˚C until golden brown and well risen - about 20 minutes.
3.Let the sponge cool on a metal rack, then cut into two layers.
4.To make the mocca cream, dilute the coffee granules in a couple of spoonfuls of cream. Add the rest of the cream and sugar and whip until soft peaks form.
5.Moisten the bottom sponge layer with some coffee, then spread just slightly less than half of the cream onto the cake. [I sometimes mix some curd cheese or fromage fraiche into this mixture, just to make it firmer and more substantial]6.Cover with the other sponge layer, moisten again with some coffee and spread the rest of the cream to the top and onto the sides of the cake.
7.Sprinkle with toasted and cooled almond flakes.
1.27.2009
พัฟครีมโยเกิร์ต (Yogurt Cream Puff)
พัฟครีมโยเกิร์ต (Yogurt Cream Puff)
ส่วนผสม เนื้อขนม (ปะมาณ12 ชิ้น)
น้ำ 40 ซีซี
นมสด 50 ซีซี
น้ำตาล 1 ช้อนชา
เนย (ชนิดเค็ม 1 ก้อน) 40 กรัม
แป้งเค้ก 70 กรัม
ไข่ 2 ฟอง
ครีมโยเกิร์ต
ผงวุ้น 1 ช้อนชา
น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ต 100 กรัม
น้ำตาล 50 กรัม
แท่งวานิลลา 1/6 แท่ง
ครีมสด 200 ซีซี
น้ำตาล พอประมาณ
วิธีทำ
1.ทำแป้งชูครีม นำเนยก้อนเล็กๆ, น้ำตาล, นมสดและน้ำ ใส่ในหม้อตั้งไฟกลาง
2.ถ้าส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ปิดไฟใส่แป้งเค้กที่ร่อนแล้วลงไปผสมให้เข้ากัน
3.เมื่อเข้ากันดีแล้ว นำไปตั้งไฟอ่อน 1-2 นาที
4.ปิดไฟ ตีไข่ใส่ลงไปแบ่งใส่ 3-4 ครั้ง ผสมให้เข้ากัน นำครีมไปอยู่ตรงขอยใส่ไข่ ให้พอดีกับครีม
5.นำใส่ในถุงแล้วรวบให้ปากถุงมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. วางกระดาษสำหรับอบลงไปบนกระดานบีบเนื้อครีม ถ้าอบแล้วจะขยายตัวขึ้นควรบีบให้ห่างๆ กันแล้วใช้นิ้วกดลงไปเมื่อบีบเสร็จแล้ว
6.นำเข้าเตาอบ 15 นาที ที่อุณหภูมิ 200 C แล้วลดอุณหภูมิลงมาเหลือ 170 C อบต่ออีก 15-20 นาทีหลังจากเย็นแล้วทำช่องสำหรับใส่ครีมโยเกิร์ต
7.ทำครีมโยเกิร์ต นำผงวุ้นไปละลายน้ำเย็น ไว้ให้เป็นวุ้น
8.นำโยเกิร์ต น้ำตาล วานิลลา ใส่ลงไปในชามผสมให้เข้ากัน
9.นำผงวุ้นข้อ 7 ไปอุ่นหรือนำเข้าเตาไมโครเวฟคนให้เข้ากัน
10.นำข้อ 9 ใส่ลงไปในเนื้อครีม 9 ส่วนเพื่อทำให้นุ่ม
11.นำครีมโยเกิร์ตของข้อ 10 ใส่ลงไปในข้อ 6 ปิดฝาแล้วโรยน้ำตาล
ส่วนผสม เนื้อขนม (ปะมาณ12 ชิ้น)
น้ำ 40 ซีซี
นมสด 50 ซีซี
น้ำตาล 1 ช้อนชา
เนย (ชนิดเค็ม 1 ก้อน) 40 กรัม
แป้งเค้ก 70 กรัม
ไข่ 2 ฟอง
ครีมโยเกิร์ต
ผงวุ้น 1 ช้อนชา
น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ต 100 กรัม
น้ำตาล 50 กรัม
แท่งวานิลลา 1/6 แท่ง
ครีมสด 200 ซีซี
น้ำตาล พอประมาณ
วิธีทำ
1.ทำแป้งชูครีม นำเนยก้อนเล็กๆ, น้ำตาล, นมสดและน้ำ ใส่ในหม้อตั้งไฟกลาง
2.ถ้าส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ปิดไฟใส่แป้งเค้กที่ร่อนแล้วลงไปผสมให้เข้ากัน
3.เมื่อเข้ากันดีแล้ว นำไปตั้งไฟอ่อน 1-2 นาที
4.ปิดไฟ ตีไข่ใส่ลงไปแบ่งใส่ 3-4 ครั้ง ผสมให้เข้ากัน นำครีมไปอยู่ตรงขอยใส่ไข่ ให้พอดีกับครีม
5.นำใส่ในถุงแล้วรวบให้ปากถุงมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ซม. วางกระดาษสำหรับอบลงไปบนกระดานบีบเนื้อครีม ถ้าอบแล้วจะขยายตัวขึ้นควรบีบให้ห่างๆ กันแล้วใช้นิ้วกดลงไปเมื่อบีบเสร็จแล้ว
6.นำเข้าเตาอบ 15 นาที ที่อุณหภูมิ 200 C แล้วลดอุณหภูมิลงมาเหลือ 170 C อบต่ออีก 15-20 นาทีหลังจากเย็นแล้วทำช่องสำหรับใส่ครีมโยเกิร์ต
7.ทำครีมโยเกิร์ต นำผงวุ้นไปละลายน้ำเย็น ไว้ให้เป็นวุ้น
8.นำโยเกิร์ต น้ำตาล วานิลลา ใส่ลงไปในชามผสมให้เข้ากัน
9.นำผงวุ้นข้อ 7 ไปอุ่นหรือนำเข้าเตาไมโครเวฟคนให้เข้ากัน
10.นำข้อ 9 ใส่ลงไปในเนื้อครีม 9 ส่วนเพื่อทำให้นุ่ม
11.นำครีมโยเกิร์ตของข้อ 10 ใส่ลงไปในข้อ 6 ปิดฝาแล้วโรยน้ำตาล
1.26.2009
พายมารอนครีมชีส (Marron & Ricotta Millefeuille)
พายมารอนครีมชีส (Marron & Ricotta Millefeuille)
ส่วนผสมพาย
แผ่นแป้งพายแช่เย็นประมาณ 300 กรัม
ครีมชีส
ชีส 200 กรัม
แป้งเกาลัด 100 กรัม
เหล้ารัม 1 ช้อนโต๊ะ
ครีมสด 100 ซีซี
ท๊อปปิ้ง
น้ำตาลไอซิ่ง ตามความชอบ
ผงโกโก้ ตามความชอบ
วิธีทำ
1.การอบพาย นำแผ่นพายที่แช่เย็น มาตั้งทิ้งไว้ให้ละลายแล้วใช้ไม้นวด นวดให้แป้งนิ่มลง
2.นวดให้แป้งหนาประมาณ 2-3 มม. แล้ววางไว้บนกระดาษรองที่โรยแป้งมันไว้ แล้วตัดแป้งให้พอเหมาะกับเนื้อครีม
3.นำแป้งในข้อ 2 มาวางไว้ที่แผ่นรองอบแล้วทาแป้งมันที่เตรียมไว้
4.นำแป้งในข้อ 3 ใช้ส้อมเจาะให้เป็นรูแล้วห่อไว้ในถุง นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ซม.เพื่อเตรียมอบ
5.นำแป้งในข้อ 4 เข้าเตาอบ อุณหภูมิ 220 C อบประมาณ 10 นาที นำออกมาทิ้งให้เย็นแล้วอบอีก 20 นาที
6.หลังจากอบเสร็จทิ้งให้เย็นลงแล้วแบ่งไว้ 8 ชิ้น
7.นำครีมชีส ใส่ชีส, แป้งเกาลัด, เหล้ารัมลงในชามผสมให้เข้ากัน
8.ใส่ครีมสดลงไปในข้อ 7 แล้วใช้ตระกร้อมือตีให้เข้ากัน
9.นำครีมในข้อ 8 มาเตรียมไว้ แล้วนำไปวางไว้บนแป้งในข้อ 6 แล้วนำแป้งอีกแผ่นมาวางไว้ข้างบน
10.นำที่เสร็จแล้วในข้อ 9 มาวางไว้ในจานแล้วโรยด้วยไอซิ่งและผงโกโก้ตามความชอบ
ส่วนผสมพาย
แผ่นแป้งพายแช่เย็นประมาณ 300 กรัม
ครีมชีส
ชีส 200 กรัม
แป้งเกาลัด 100 กรัม
เหล้ารัม 1 ช้อนโต๊ะ
ครีมสด 100 ซีซี
ท๊อปปิ้ง
น้ำตาลไอซิ่ง ตามความชอบ
ผงโกโก้ ตามความชอบ
วิธีทำ
1.การอบพาย นำแผ่นพายที่แช่เย็น มาตั้งทิ้งไว้ให้ละลายแล้วใช้ไม้นวด นวดให้แป้งนิ่มลง
2.นวดให้แป้งหนาประมาณ 2-3 มม. แล้ววางไว้บนกระดาษรองที่โรยแป้งมันไว้ แล้วตัดแป้งให้พอเหมาะกับเนื้อครีม
3.นำแป้งในข้อ 2 มาวางไว้ที่แผ่นรองอบแล้วทาแป้งมันที่เตรียมไว้
4.นำแป้งในข้อ 3 ใช้ส้อมเจาะให้เป็นรูแล้วห่อไว้ในถุง นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นประมาณ 1 ซม.เพื่อเตรียมอบ
5.นำแป้งในข้อ 4 เข้าเตาอบ อุณหภูมิ 220 C อบประมาณ 10 นาที นำออกมาทิ้งให้เย็นแล้วอบอีก 20 นาที
6.หลังจากอบเสร็จทิ้งให้เย็นลงแล้วแบ่งไว้ 8 ชิ้น
7.นำครีมชีส ใส่ชีส, แป้งเกาลัด, เหล้ารัมลงในชามผสมให้เข้ากัน
8.ใส่ครีมสดลงไปในข้อ 7 แล้วใช้ตระกร้อมือตีให้เข้ากัน
9.นำครีมในข้อ 8 มาเตรียมไว้ แล้วนำไปวางไว้บนแป้งในข้อ 6 แล้วนำแป้งอีกแผ่นมาวางไว้ข้างบน
10.นำที่เสร็จแล้วในข้อ 9 มาวางไว้ในจานแล้วโรยด้วยไอซิ่งและผงโกโก้ตามความชอบ
1.25.2009
พายโยเกิร์ต (Yogurt Tart)
พายโยเกิร์ต (Yogurt Tart)
ส่วนผสมแป้งขนมพาย (แบบถาดพายเส้นผ่าศูนย์กลาง 21 ซม. 1 ถาด)
เนย 90 กรัม
น้ำตาล 50 กรัม
ไข่ (ไซส์ m) ½ ใบ
แป้งเค้ก 130 กรัม
ผงฟู ¼ ช้อนชา
แอปเปิ้ล(สีแดง) 2 ใบ
เนย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 30 กรัม
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
ไส้ขนม
โยเกิร์ตชีส 220 กรัม
น้ำตาล 70 กรัม
ครีมชีส 90 กรัม
ไข่แดง 2 ใบ
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.ทำเนื้อขนมพาย นำเนยเทใส่ชามแล้วใช้ไม้ตีไข่คน เติมน้ำตาลไอซิ่งคนให้เข้ากัน จากนั้นก็เติมไข่ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
2.ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูรวมกัน คนให้เป็นเนื้อเดียวกันจนนุ่มห่อลงในฟิล์มถนอมอาหารนำไปแช่เย็นประมาณ 2 ชม. ขึ้นไป (สามารถเก็บได้ถึง 1 คืน)
3.นำส่วนผสมข้อ 2 มานวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
4.นำแป้งมานวดให้มีความหนาประมาณ 3 มม. แล้วนำไปใส่ในแบบพิมพ์
5.ใช้ส้อมจิ้มให้เป็นรูให้ทั่ว แล้วก็นำกระดาษสำหรับอบวางช้อนลง
6.นำไปอบที่อุณหภูมิ 220 C ประมาณ 20 นาที แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ 180 C อีก 10 นาทีดึงกระดาษที่ช้อนอยู่ออก นำไปแช่เย็นเตรียมไว้
7.หั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้นๆ
8.นำเนยไปละลายในกระทะ แล้วนำส่วนผสมข้อ 7 ใส่ลงไปให้พอเหลืองเล็กน้อย
9.ใส่น้ำตาลกับน้ำมะนาวลงไป แล้วต้มให้พอสุกเตรียมไว้
10.ทำไส้ขนม เทโยเกิร์ตใส่ชามเติมน้ำตาลแล้วคนให้เข้ากัน
11.เมื่อปล่อยทิ้งไว้จนนุ่มแล้วก็เติมครีมชีสลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
12.เติมไข่แดงกับแป้งข้าวโพดลงไปคนให้เข้ากัน
13.นำส่วนผสมข้อ 2 ใส่ลงไปข้อ 6 ปาดหน้าให้เรียบ
14.นำส่วนผสมข้อ 9 มาวางเรียงกัน แล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 C ประมาณ 30 นาที
ส่วนผสมแป้งขนมพาย (แบบถาดพายเส้นผ่าศูนย์กลาง 21 ซม. 1 ถาด)
เนย 90 กรัม
น้ำตาล 50 กรัม
ไข่ (ไซส์ m) ½ ใบ
แป้งเค้ก 130 กรัม
ผงฟู ¼ ช้อนชา
แอปเปิ้ล(สีแดง) 2 ใบ
เนย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาล 30 กรัม
น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
ไส้ขนม
โยเกิร์ตชีส 220 กรัม
น้ำตาล 70 กรัม
ครีมชีส 90 กรัม
ไข่แดง 2 ใบ
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.ทำเนื้อขนมพาย นำเนยเทใส่ชามแล้วใช้ไม้ตีไข่คน เติมน้ำตาลไอซิ่งคนให้เข้ากัน จากนั้นก็เติมไข่ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
2.ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูรวมกัน คนให้เป็นเนื้อเดียวกันจนนุ่มห่อลงในฟิล์มถนอมอาหารนำไปแช่เย็นประมาณ 2 ชม. ขึ้นไป (สามารถเก็บได้ถึง 1 คืน)
3.นำส่วนผสมข้อ 2 มานวดให้เป็นเนื้อเดียวกัน
4.นำแป้งมานวดให้มีความหนาประมาณ 3 มม. แล้วนำไปใส่ในแบบพิมพ์
5.ใช้ส้อมจิ้มให้เป็นรูให้ทั่ว แล้วก็นำกระดาษสำหรับอบวางช้อนลง
6.นำไปอบที่อุณหภูมิ 220 C ประมาณ 20 นาที แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ 180 C อีก 10 นาทีดึงกระดาษที่ช้อนอยู่ออก นำไปแช่เย็นเตรียมไว้
7.หั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้นๆ
8.นำเนยไปละลายในกระทะ แล้วนำส่วนผสมข้อ 7 ใส่ลงไปให้พอเหลืองเล็กน้อย
9.ใส่น้ำตาลกับน้ำมะนาวลงไป แล้วต้มให้พอสุกเตรียมไว้
10.ทำไส้ขนม เทโยเกิร์ตใส่ชามเติมน้ำตาลแล้วคนให้เข้ากัน
11.เมื่อปล่อยทิ้งไว้จนนุ่มแล้วก็เติมครีมชีสลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
12.เติมไข่แดงกับแป้งข้าวโพดลงไปคนให้เข้ากัน
13.นำส่วนผสมข้อ 2 ใส่ลงไปข้อ 6 ปาดหน้าให้เรียบ
14.นำส่วนผสมข้อ 9 มาวางเรียงกัน แล้วนำไปอบที่อุณหภูมิ 180 C ประมาณ 30 นาที
1.24.2009
พายโยเกิร์ตผลไม้ (Yogurt Meringue Pie)
พายโยเกิร์ตผลไม้ (Yogurt Meringue Pie)
ส่วนผสมเนื้อพาย (พายที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 21 ซม. 1 ถาด)
แป้งสาลี 150 กรัม
เกลือ - เล็กน้อย
เนย 120 กรัม
งาขาว 3 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ต 80 กรัม
แยมพรูนัส 1 ช้อนโต๊ะ
ไส้พาย
แป้งข้าวโพด 30กรัม
น้ำตาล150กรัม
น้ำร้อน200ซีซี
ไข่แดง4ฟอง
เลมอนที่หั่นบาง2ลูก
น้ำเลมอน50ซีซี
โยเกิร์ต100ซีซี
เมเรนเกะ
ไข่ขาว 2 ฟอง
น้ำตาล 8-10 ช้อนโต๊ะ
น้ำเลมอน ½ ช้อนชา
น้ำตาลไอซิ่ง -ตามความเหมาะสม
วิธีทำ
1.การทำเนื้อพาย ร่อนแป้งสาลีกับเกลือลงในชามจากนั้นตัดเเนยให้บางๆ แล้วใส่ลงไปในแป้งที่ร่อนไว้แล้วจากนั้นก็คนให้เข้ากัน
2.เพิ่มงาขาวลงไปจากนั้นก็นำเข้าตู้เย็นประมาณ 30 นาที
3.พอเย็นแล้วก็ให้ใส่โยเกิร์ตลงไป แล้วก็คนให้เข้ากันทั้งหมด
4.หลังจากที่คนให้เข้ากันทั้งหมดแล้วให้นำมาห่อใส่กระดาษแลป แล้วปล่อยไว้ 2 ซม.
5.แกะส่วนผสมที่ได้ห่อไว้ในข้อ 4 ออกมาแล้ว มาวางแผ่ขยายไว้ในถาดโดยให้มีความหนาประมาณ 3-4 ซม. โดยใช้มือทำให้มีลักษณะราบแบน แล้วนำเข้าตู้เย็น
6.ใช้มีดตกแต่งตรงขอบให้เป็นระเบียบ แล้วใช้ส้อมทิ่มตรงส่วนที่เกิดฟองอากาศจากนั้นก็นำมาวางไว้ที่กระดาษสำหรับอบแล้วนำเข้าเตาอบประมาณ 20 นาที ในอุณหภูมิ 220 C แล้วก็ต้องนำเข้าไปอบอีกครั้งในอุณหภูมิ 180 C อีก 15-20 นาทีเสร็จแล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น
7.นำแยมพรูนัสมาทาไว้ที่รอบๆ ของขอบที่ได้ทำเสร็จแล้วในข้อ 6
8.การทำไส้พาย นำแป้งข้าวโพดกับน้ำตาลมาผสมรวมกันในหม้อแล้วใส่น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิ 70-80 Cลงไปด้วยแล้วคนให้เข้ากันตั้งบนไฟอ่อนๆ
9.ตีไข่แดงแล้วนำมาใส่เพิ่มลงไปในข้อ 8 ทีละนิดแล้วคนไปเรื่อยๆ
10.นำส่วนผสมที่ทำอยู่ในข้อ 9 ยกลงจากเตาจากนั้นนำเลมอนที่หั่นบาง, น้ำเลมอน, โยเกิร์ตที่ได้ใส่ไว้ในชามที่ได้ผสมให้เข้ากันแล้วใส่เพิ่มลงไป แล้วคนเร็วๆ เพื่อให้เข้ากัน
11.นำส่วนผสมตั้งแต่ข้อ 8-10 ที่ได้ทำไว้เทใส่ลงไปที่เนื้อพายที่ได้ทำไว้ให้ราบแบนไว้แล้วในข้อ 7แล้วปล่อยให้แข็งตัว
12.การทำเมเรนเกะ ใส่ไข่ขาวลงไปในชามแล้วเพิ่มน้ำเลมอนลงไปตีจนเกิดฟองแล้วเพิ่มน้ำตาลลงไปอีก ประมาณ 2-3 ครั้งในชามตีจนเกิดฟองขาวๆ ขึ้นมา
13.นำเมเรนเกะที่ได้ทำเสร็จแล้วใส่ลงไปในข้อ 11 โดยเทลงไปให้รอบๆ จากนั้นก็โรยน้ำตาลไอซิ่งที่ด้านบน แล้ววางทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที
14.แล้วก็นำเข้าเตาอบประมาณ 10-15 นาทีที่อุณหภูมิ 180 C จนมีสีสันที่น่ารับประทาน
ส่วนผสมเนื้อพาย (พายที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 21 ซม. 1 ถาด)
แป้งสาลี 150 กรัม
เกลือ - เล็กน้อย
เนย 120 กรัม
งาขาว 3 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ต 80 กรัม
แยมพรูนัส 1 ช้อนโต๊ะ
ไส้พาย
แป้งข้าวโพด 30กรัม
น้ำตาล150กรัม
น้ำร้อน200ซีซี
ไข่แดง4ฟอง
เลมอนที่หั่นบาง2ลูก
น้ำเลมอน50ซีซี
โยเกิร์ต100ซีซี
เมเรนเกะ
ไข่ขาว 2 ฟอง
น้ำตาล 8-10 ช้อนโต๊ะ
น้ำเลมอน ½ ช้อนชา
น้ำตาลไอซิ่ง -ตามความเหมาะสม
วิธีทำ
1.การทำเนื้อพาย ร่อนแป้งสาลีกับเกลือลงในชามจากนั้นตัดเเนยให้บางๆ แล้วใส่ลงไปในแป้งที่ร่อนไว้แล้วจากนั้นก็คนให้เข้ากัน
2.เพิ่มงาขาวลงไปจากนั้นก็นำเข้าตู้เย็นประมาณ 30 นาที
3.พอเย็นแล้วก็ให้ใส่โยเกิร์ตลงไป แล้วก็คนให้เข้ากันทั้งหมด
4.หลังจากที่คนให้เข้ากันทั้งหมดแล้วให้นำมาห่อใส่กระดาษแลป แล้วปล่อยไว้ 2 ซม.
5.แกะส่วนผสมที่ได้ห่อไว้ในข้อ 4 ออกมาแล้ว มาวางแผ่ขยายไว้ในถาดโดยให้มีความหนาประมาณ 3-4 ซม. โดยใช้มือทำให้มีลักษณะราบแบน แล้วนำเข้าตู้เย็น
6.ใช้มีดตกแต่งตรงขอบให้เป็นระเบียบ แล้วใช้ส้อมทิ่มตรงส่วนที่เกิดฟองอากาศจากนั้นก็นำมาวางไว้ที่กระดาษสำหรับอบแล้วนำเข้าเตาอบประมาณ 20 นาที ในอุณหภูมิ 220 C แล้วก็ต้องนำเข้าไปอบอีกครั้งในอุณหภูมิ 180 C อีก 15-20 นาทีเสร็จแล้ว ก็ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น
7.นำแยมพรูนัสมาทาไว้ที่รอบๆ ของขอบที่ได้ทำเสร็จแล้วในข้อ 6
8.การทำไส้พาย นำแป้งข้าวโพดกับน้ำตาลมาผสมรวมกันในหม้อแล้วใส่น้ำร้อนที่มีอุณหภูมิ 70-80 Cลงไปด้วยแล้วคนให้เข้ากันตั้งบนไฟอ่อนๆ
9.ตีไข่แดงแล้วนำมาใส่เพิ่มลงไปในข้อ 8 ทีละนิดแล้วคนไปเรื่อยๆ
10.นำส่วนผสมที่ทำอยู่ในข้อ 9 ยกลงจากเตาจากนั้นนำเลมอนที่หั่นบาง, น้ำเลมอน, โยเกิร์ตที่ได้ใส่ไว้ในชามที่ได้ผสมให้เข้ากันแล้วใส่เพิ่มลงไป แล้วคนเร็วๆ เพื่อให้เข้ากัน
11.นำส่วนผสมตั้งแต่ข้อ 8-10 ที่ได้ทำไว้เทใส่ลงไปที่เนื้อพายที่ได้ทำไว้ให้ราบแบนไว้แล้วในข้อ 7แล้วปล่อยให้แข็งตัว
12.การทำเมเรนเกะ ใส่ไข่ขาวลงไปในชามแล้วเพิ่มน้ำเลมอนลงไปตีจนเกิดฟองแล้วเพิ่มน้ำตาลลงไปอีก ประมาณ 2-3 ครั้งในชามตีจนเกิดฟองขาวๆ ขึ้นมา
13.นำเมเรนเกะที่ได้ทำเสร็จแล้วใส่ลงไปในข้อ 11 โดยเทลงไปให้รอบๆ จากนั้นก็โรยน้ำตาลไอซิ่งที่ด้านบน แล้ววางทิ้งไว้ประมาณ 2-3 นาที
14.แล้วก็นำเข้าเตาอบประมาณ 10-15 นาทีที่อุณหภูมิ 180 C จนมีสีสันที่น่ารับประทาน
1.23.2009
พายแอปเปิ้ล (Apple Clum Pie)
พายแอปเปิ้ล (Apple Clum Pie)
ส่วนผสม ถาดอบขนาด 30x30 ซม. 1 ถาด
พาย
แผ่นแป้งพายแช่แข็ง 300 กรัม
เนื้อชีส
ริคอตต้าชีส (Ricotta Cheese) 150 กรัม
ครีมชีส 80 กรัม
น้ำผึ้ง 25 ซีซี
เหล้าคาลวาดอส (Calvados) 1 ช้อนโต๊ะ
ท็อปปิ้ง
เนยชนิดจืด 20 กรัม
แป้งสาลี 30 กรัม
อบเชย 1 ช้อนชา
เกลือ ¼ ช้อนชา
วอลนัท 50 กรัม
ลูกเกด 50 กรัม
น้ำผึ้ง 50 ซีซี
แอปเปิ้ลสีแดงสด (เลือกลูกที่ค่อนข้างเปรี้ยว) 2 ผล
มะนาวฝานบางๆ 2 ชิ้น
น้ำตาลทราย 20 กรัม
วิธีทำ
1.ต้มแอปเปิ้ลที่หั่นเป็นชิ้นแล้วกับมะนาวฝานบางๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ต้มประมาณ 10 นาทีลดไฟให้เป็นไฟอ่อน เปิดฝาให้ไอน้ำออกต้มไปเรื่อยๆ จนกว่าแอปเปิ้ลจะนิ่มแล้วเพิ่มเป็นไฟกลางเปิดฝาหม้อให้ไอน้ำออกอีกครั้งแล้วปิดเตาทิ้งไว้ให้เย็น
2.ทำเนื้อชีส ผสมครีมชีสกับริคอตต้าชีสให้เข้ากันจนเนียนเติมน้ำผึ้งกับเหล้าคาลวาดอส
3..ทำหน้าท็อปปิ้ง ใส่เนยชนิดจืดลงในชาม เติมแป้งสาลี, อบเชย, น้ำร้อนลงไป ใช้นิ้วบี้เนยแล้วโรยแป้งลงไปนวดให้ละเอียด
4.ทำพาย เอาแผ่นพายมาคลึงด้วยไม้นวดแป้งให้หนา 2-3 มม. มาวางไว้บนถาดรอง อบให้ล้นออกมาจากถาดนิดหน่อย
5.ทาเนื้อชีสจากข้อ 2 บนพายแล้วใส่วอลนัท ลูกเกด และแอปเปิ้ลจาก ข้อ 1 ลงไป
6.โรยส่วนผสมจากข้อ 3 ลงไปทั้งหมดราดด้วยน้ำผึ้งนำไปใส่เตาอบ
7.อบด้วยอุณหภูมิ 220 C ประมาณ 35 นาที แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ 180 C อบต่ออีก 5 นาที
ส่วนผสม ถาดอบขนาด 30x30 ซม. 1 ถาด
พาย
แผ่นแป้งพายแช่แข็ง 300 กรัม
เนื้อชีส
ริคอตต้าชีส (Ricotta Cheese) 150 กรัม
ครีมชีส 80 กรัม
น้ำผึ้ง 25 ซีซี
เหล้าคาลวาดอส (Calvados) 1 ช้อนโต๊ะ
ท็อปปิ้ง
เนยชนิดจืด 20 กรัม
แป้งสาลี 30 กรัม
อบเชย 1 ช้อนชา
เกลือ ¼ ช้อนชา
วอลนัท 50 กรัม
ลูกเกด 50 กรัม
น้ำผึ้ง 50 ซีซี
แอปเปิ้ลสีแดงสด (เลือกลูกที่ค่อนข้างเปรี้ยว) 2 ผล
มะนาวฝานบางๆ 2 ชิ้น
น้ำตาลทราย 20 กรัม
วิธีทำ
1.ต้มแอปเปิ้ลที่หั่นเป็นชิ้นแล้วกับมะนาวฝานบางๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ต้มประมาณ 10 นาทีลดไฟให้เป็นไฟอ่อน เปิดฝาให้ไอน้ำออกต้มไปเรื่อยๆ จนกว่าแอปเปิ้ลจะนิ่มแล้วเพิ่มเป็นไฟกลางเปิดฝาหม้อให้ไอน้ำออกอีกครั้งแล้วปิดเตาทิ้งไว้ให้เย็น
2.ทำเนื้อชีส ผสมครีมชีสกับริคอตต้าชีสให้เข้ากันจนเนียนเติมน้ำผึ้งกับเหล้าคาลวาดอส
3..ทำหน้าท็อปปิ้ง ใส่เนยชนิดจืดลงในชาม เติมแป้งสาลี, อบเชย, น้ำร้อนลงไป ใช้นิ้วบี้เนยแล้วโรยแป้งลงไปนวดให้ละเอียด
4.ทำพาย เอาแผ่นพายมาคลึงด้วยไม้นวดแป้งให้หนา 2-3 มม. มาวางไว้บนถาดรอง อบให้ล้นออกมาจากถาดนิดหน่อย
5.ทาเนื้อชีสจากข้อ 2 บนพายแล้วใส่วอลนัท ลูกเกด และแอปเปิ้ลจาก ข้อ 1 ลงไป
6.โรยส่วนผสมจากข้อ 3 ลงไปทั้งหมดราดด้วยน้ำผึ้งนำไปใส่เตาอบ
7.อบด้วยอุณหภูมิ 220 C ประมาณ 35 นาที แล้วลดอุณหภูมิลงเหลือ 180 C อบต่ออีก 5 นาที
1.22.2009
พุดดิ้งครีมเปรี้ยว (Flan au Fromage)
พุดดิ้งครีมเปรี้ยว (Flan au Fromage)
ส่วนผสมชีส (แม่พิมพ์ทนความร้อนขนาด 25x12 ซม. 1 อัน)
ชีสมัสกราโพเน (Maskarpone)150กรัม
ครีมเปรี้ยว 150กรัม
ไข่ 2ฟอง
กลิ่นวานิลลา 4 ส่วน
นมสด 150ซีซี
น้ำตาลทราย 50กรัม
ก้านวานิลลา1/4ชิ้น
คาราเมล
น้ำตาลทราย 30กรัม
น้ำ40ซีซี
วิธีทำ
1.ทำคาราเมล นำน้ำกับน้ำตาลทรายใส่ลงไปในหม้อตั้งไฟปานกลาง ต้มให้เดือด พอเดือดให้เทใส่ภาชนะที่ทนความร้อน
2.ทำชีส นำชีสมัสกราโพเน กับครีมเปรี้ยวใส่ลงในชามตีให้เข้ากัน ตีไข่กับกลิ่นวานิลลาให้เข้ากันแล้วใส่ลงในชาม
3.ใส่นมสด, น้ำตาลทราย, ก้านวานิลลาลงไปในหม้อ
4.นำส่วนผสมข้อ 3 กับข้อ 2 ผสมกันโดยกรองก่อนใช้ตะแกรงกรอง ใส่คาราเมลลงไปผสมให้เข้ากันเทใส่ถาดสำหรับอบ
5.นำส่วนผสมข้อ 4 ไปอบที่อุณหภูมิ 160 C เป็นเวลา 30 นาที
6.ถ้าชอบแบบเย็นหลังอบเสร็จแล้วนำมาผึ่งให้เย็นแล้วใส่ตู้เย็นสามารถรับประทานเมื่อไรก็ได้
ส่วนผสมชีส (แม่พิมพ์ทนความร้อนขนาด 25x12 ซม. 1 อัน)
ชีสมัสกราโพเน (Maskarpone)150กรัม
ครีมเปรี้ยว 150กรัม
ไข่ 2ฟอง
กลิ่นวานิลลา 4 ส่วน
นมสด 150ซีซี
น้ำตาลทราย 50กรัม
ก้านวานิลลา1/4ชิ้น
คาราเมล
น้ำตาลทราย 30กรัม
น้ำ40ซีซี
วิธีทำ
1.ทำคาราเมล นำน้ำกับน้ำตาลทรายใส่ลงไปในหม้อตั้งไฟปานกลาง ต้มให้เดือด พอเดือดให้เทใส่ภาชนะที่ทนความร้อน
2.ทำชีส นำชีสมัสกราโพเน กับครีมเปรี้ยวใส่ลงในชามตีให้เข้ากัน ตีไข่กับกลิ่นวานิลลาให้เข้ากันแล้วใส่ลงในชาม
3.ใส่นมสด, น้ำตาลทราย, ก้านวานิลลาลงไปในหม้อ
4.นำส่วนผสมข้อ 3 กับข้อ 2 ผสมกันโดยกรองก่อนใช้ตะแกรงกรอง ใส่คาราเมลลงไปผสมให้เข้ากันเทใส่ถาดสำหรับอบ
5.นำส่วนผสมข้อ 4 ไปอบที่อุณหภูมิ 160 C เป็นเวลา 30 นาที
6.ถ้าชอบแบบเย็นหลังอบเสร็จแล้วนำมาผึ่งให้เย็นแล้วใส่ตู้เย็นสามารถรับประทานเมื่อไรก็ได้
1.21.2009
แพนเค้กอัลมอนด์ (Almond Pancakes)
แพนเค้กอัลมอนด์ (Almond Pancakes)
ส่วนผสม (แบบพิมพ์เส้นผ่าศูนย์กลาง 12 ซม. ทำได้ 8-10 ชิ้น)
แป้งสาลี 200 กรัม
ผงอัลมอนด์ 50 กรัม
ผงฟู 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 50 กรัม
เกลือ - จำนวนเล็กน้อย
ไข่ 2 ฟอง
นมวัว 200 ซีซี
ในกรณีที่อบออกมาแล้วหนาเกินไป ให้ใส่นมวัว 150 ซีซี จะทำให้ไม่หนาเกินไป
วิธีทำ
1.นำแป้งสาลี, ผงอัลมอนด์, ผงฟู, น้ำตาลทรายและเกลือใส่ลงในชาม
2.ใส่ไข่กับนมวัวในปริมาณครึ่งหนึ่ง ตีให้เกิดฟอง
3.ใส่นมวัวที่เหลือลงไปตีให้เข้ากัน
4.ตั้งไฟอ่อนๆ ใส่เนยหนึ่งก้อน (สามารถใช้มากกว่านี้ได้) ใช้กระทะแบบจานจะทำได้ง่ายกว่า
5.ถ้ารู้สึกว่าแห้งแล้วหรือแพนเค้กในกระทะมีเสียงปุปุแล้วเป็นรูออกมา ให้กลับด้าน ทอดประมาณ30 วินาที-1 นาที ก็ให้พลิกด้าน
ส่วนผสม (แบบพิมพ์เส้นผ่าศูนย์กลาง 12 ซม. ทำได้ 8-10 ชิ้น)
แป้งสาลี 200 กรัม
ผงอัลมอนด์ 50 กรัม
ผงฟู 2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 50 กรัม
เกลือ - จำนวนเล็กน้อย
ไข่ 2 ฟอง
นมวัว 200 ซีซี
ในกรณีที่อบออกมาแล้วหนาเกินไป ให้ใส่นมวัว 150 ซีซี จะทำให้ไม่หนาเกินไป
วิธีทำ
1.นำแป้งสาลี, ผงอัลมอนด์, ผงฟู, น้ำตาลทรายและเกลือใส่ลงในชาม
2.ใส่ไข่กับนมวัวในปริมาณครึ่งหนึ่ง ตีให้เกิดฟอง
3.ใส่นมวัวที่เหลือลงไปตีให้เข้ากัน
4.ตั้งไฟอ่อนๆ ใส่เนยหนึ่งก้อน (สามารถใช้มากกว่านี้ได้) ใช้กระทะแบบจานจะทำได้ง่ายกว่า
5.ถ้ารู้สึกว่าแห้งแล้วหรือแพนเค้กในกระทะมีเสียงปุปุแล้วเป็นรูออกมา ให้กลับด้าน ทอดประมาณ30 วินาที-1 นาที ก็ให้พลิกด้าน
1.20.2009
แพนนา คอตต้า (Panna Cotta)
แพนนา คอตต้า (Panna Cotta)
ส่วนผสมซอส
นมข้นจืด 150 กรัม
น้ำตาลทราย 45 กรัม
ไข่แดง 1 ฟอง
แป้งขนมปัง 20 กรัม
ถั่วพิทาชิโอป่นละเอียด 100 กรัม
ส่วนผสมตัวครีม 1 ที่
วิปปิ้งครีมชนิดจืด 400 กรัม
นมข้นจืด 100 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 10 กรัม
ผิวมะนาว1 ½ ผล
แผ่นวุ้นเจลลาติน 1 แผ่น
วิธีทำ
1.ทำซอสถั่ว (สีเขียว) นำนมกับน้ำตาลมาละลายให้เข้ากันพักไว้ ตีไข่กับแป้งขนมปังให้ขึ้นฟูเทส่วนผสมทั้งสอง พร้อมกับถั่วป่น ผสมเข้ากัน
2.ผสมวิปปิ้งครีม นม และน้ำตาลไอซิ่ง คนให้เข้ากัน เดือดดีแล้วใส่แผ่นเจลลาตินคนให้เข้ากันอีกครั้ง พักให้เย็น เทใส่พิมพ์แช่ตู้เย็น
3.จัดเสิร์ฟโดยนำตัวครีมออกจากพิมพ์ จัดใส่จานราดด้วยซอสถั่ว และแยมสตรอว์เบอร์รี่ตกแต่งให้สวยงาม
ส่วนผสมซอส
นมข้นจืด 150 กรัม
น้ำตาลทราย 45 กรัม
ไข่แดง 1 ฟอง
แป้งขนมปัง 20 กรัม
ถั่วพิทาชิโอป่นละเอียด 100 กรัม
ส่วนผสมตัวครีม 1 ที่
วิปปิ้งครีมชนิดจืด 400 กรัม
นมข้นจืด 100 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 10 กรัม
ผิวมะนาว1 ½ ผล
แผ่นวุ้นเจลลาติน 1 แผ่น
วิธีทำ
1.ทำซอสถั่ว (สีเขียว) นำนมกับน้ำตาลมาละลายให้เข้ากันพักไว้ ตีไข่กับแป้งขนมปังให้ขึ้นฟูเทส่วนผสมทั้งสอง พร้อมกับถั่วป่น ผสมเข้ากัน
2.ผสมวิปปิ้งครีม นม และน้ำตาลไอซิ่ง คนให้เข้ากัน เดือดดีแล้วใส่แผ่นเจลลาตินคนให้เข้ากันอีกครั้ง พักให้เย็น เทใส่พิมพ์แช่ตู้เย็น
3.จัดเสิร์ฟโดยนำตัวครีมออกจากพิมพ์ จัดใส่จานราดด้วยซอสถั่ว และแยมสตรอว์เบอร์รี่ตกแต่งให้สวยงาม
1.19.2009
แพร์ วิลเลี่ยม มูส (Pear William Mousse)
แพร์ วิลเลี่ยม มูส (Pear William Mousse)
ส่วนผสม 1 ถาดเล็ก
วานิลลาสปอนจ์เค้ก 1 ปอนด์
ไส้แพร์
แพร์ วิลเลี่ยม มูส
วิธีทำ
1.นำเค้กวานิลลามาสไลซ์เป็น 2 แผ่น นำแผ่นแรกมาใส่ถาด นำไส้แพร์ (ที่ได้จากการนำลูกแพร์สด 1 กิโลกรัมต้ม แล้วเก็บน้ำไว้ นำเนื้อไปผัดกับน้ำตาล 300 กรัมและเหล้าแพร์วิลเลี่ยม (Pear William) 10 กรัม) ทาให้ทั่วหน้าเค้ก
2.จากนั้นเทแพร์ วิลเลี่ยม มูส (ที่ได้จากการนำน้ำต้มลูกแพร์ 750 กรัม ตีผสมกับน้ำตาลทราย300 กรัมและเติมเหล้าแพร์ วิลเลี่ยม 100 กรัม วิปปิ้งครีม 1 กิโลกรัม และผงเจลลาติน 1/2 ถ้วยจนเข้ากันดีแล้ว) ให้ทั่วชิ้นเค้ก
3.นำเค้กวานิลลาอีกแผ่นมาวางทับ ตกแต่งหน้าบนสุดให้สวยงามด้วยวุ้นเจลลาติน และชิ้นแพร์ตามชอบ
ส่วนผสม 1 ถาดเล็ก
วานิลลาสปอนจ์เค้ก 1 ปอนด์
ไส้แพร์
แพร์ วิลเลี่ยม มูส
วิธีทำ
1.นำเค้กวานิลลามาสไลซ์เป็น 2 แผ่น นำแผ่นแรกมาใส่ถาด นำไส้แพร์ (ที่ได้จากการนำลูกแพร์สด 1 กิโลกรัมต้ม แล้วเก็บน้ำไว้ นำเนื้อไปผัดกับน้ำตาล 300 กรัมและเหล้าแพร์วิลเลี่ยม (Pear William) 10 กรัม) ทาให้ทั่วหน้าเค้ก
2.จากนั้นเทแพร์ วิลเลี่ยม มูส (ที่ได้จากการนำน้ำต้มลูกแพร์ 750 กรัม ตีผสมกับน้ำตาลทราย300 กรัมและเติมเหล้าแพร์ วิลเลี่ยม 100 กรัม วิปปิ้งครีม 1 กิโลกรัม และผงเจลลาติน 1/2 ถ้วยจนเข้ากันดีแล้ว) ให้ทั่วชิ้นเค้ก
3.นำเค้กวานิลลาอีกแผ่นมาวางทับ ตกแต่งหน้าบนสุดให้สวยงามด้วยวุ้นเจลลาติน และชิ้นแพร์ตามชอบ
1.18.2009
ฟรุ้ตทาร์ต (Fruit Tart)
ฟรุ้ตทาร์ต (Fruit Tart)
ส่วนผสม 3 ถาด
แป้งสาลี 560 กรัม
มาร์การีนเพสตรี (Margarine pastry) 247 กรัม
เนยสด 90 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 168 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
วิธีทำ
1.นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนแล้วใช้ไม้คลึงรีดแป้งให้บาง ใช้พิมพ์กดให้ เป็นแผ่นกลม แล้วนำไปกรุลงพิมพ์ อบด้วยความร้อน 325 F ประมาณ 14 นาที พักให้เย็น
2.นำไส้ทาร์ตที่ผสมด้วยนมข้นจืด 200 กรัม น้ำตาล 100 กรัม เนย 75 กรัม ไข่แดง 3 ฟองผงคัสตาร์ด 25 กรัม แป้งข้าวโพด 30 กรัม ตั้งบนไฟกวนให้เข้ากันจนข้นแล้วเทลง ตกแต่ง ด้วยผลไม้ตามชอบ ทาหน้าเคลือบด้วยวุ้นเจลลาติน
ส่วนผสม 3 ถาด
แป้งสาลี 560 กรัม
มาร์การีนเพสตรี (Margarine pastry) 247 กรัม
เนยสด 90 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 168 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
วิธีทำ
1.นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนแล้วใช้ไม้คลึงรีดแป้งให้บาง ใช้พิมพ์กดให้ เป็นแผ่นกลม แล้วนำไปกรุลงพิมพ์ อบด้วยความร้อน 325 F ประมาณ 14 นาที พักให้เย็น
2.นำไส้ทาร์ตที่ผสมด้วยนมข้นจืด 200 กรัม น้ำตาล 100 กรัม เนย 75 กรัม ไข่แดง 3 ฟองผงคัสตาร์ด 25 กรัม แป้งข้าวโพด 30 กรัม ตั้งบนไฟกวนให้เข้ากันจนข้นแล้วเทลง ตกแต่ง ด้วยผลไม้ตามชอบ ทาหน้าเคลือบด้วยวุ้นเจลลาติน
1.17.2009
มัฟฟิ่นกล้วยหอม (Banana Muffins)
มัฟฟิ่นกล้วยหอม (Banana Muffins)
ส่วนผสม (แบบพิมพ์มัฟฟิ่นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 ซม. สำหรับ 6 ชิ้น)
เนย 70 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 60 กรัม
ไข่ 1 ฟอง
แป้งสาลี 100 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
กล้วย 100 กรัม
นมวัว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1.เตรียมเนยและไข่เอาไว้ แล้วนำถ้วยกระดาษใส่ไว้ในแม่พิมพ์
2.นำกล้วยมาบดลงในชามด้วยส้อม แล้วใส่นมตามลงไป
3.ใส่เนยตามลงไป แล้วใช้ตระกร้อมือตีทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนเนื้อออกเป็นสีขาวๆ
4.ใส่ไข่แดงผสมตามลงไปตีให้เข้ากัน
5.จากนั้นนำแป้งสาลี ผงฟูอย่างละครึ่งมาผสมกัน แล้วนำกล้วยที่บดเตรียมไว้ในข้อ 2 มาผสมใส่ลงในแป้งด้วย โดยใช้แค่ครึ่งเดียวเช่นกัน
6.นำแป้งที่เหลือกับส่วนผสมอีกครึ่งในข้อ 2 มาผสมตามลงไปโดยตีส่วนผสมทั้งหมดจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
7.จากนั้นใช้ช้อนตักเนื้อขนมมาหยอดลงใน แม่พิมพ์ที่เตรียมเอาไว้แล้วนำไปอบ ในเตาอบประมาณ 30 นาที โดยใช้อุณหภูมิประมาณ 170 C เมื่ออบเสร็จแล้วให้เอาไม้จิ้มที่เนื้อขนมดูว่าสุกได้ที่หรือยังซึ่งการนำไปจิ้มดูนี้ไม่ทำให้เนื้อขนมเสียหายแต่อย่างใด
ส่วนผสม (แบบพิมพ์มัฟฟิ่นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 ซม. สำหรับ 6 ชิ้น)
เนย 70 กรัม
น้ำตาลทรายแดง 60 กรัม
ไข่ 1 ฟอง
แป้งสาลี 100 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
กล้วย 100 กรัม
นมวัว 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1.เตรียมเนยและไข่เอาไว้ แล้วนำถ้วยกระดาษใส่ไว้ในแม่พิมพ์
2.นำกล้วยมาบดลงในชามด้วยส้อม แล้วใส่นมตามลงไป
3.ใส่เนยตามลงไป แล้วใช้ตระกร้อมือตีทั้งหมดให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปผสมทั้งหมดให้เข้ากันจนเนื้อออกเป็นสีขาวๆ
4.ใส่ไข่แดงผสมตามลงไปตีให้เข้ากัน
5.จากนั้นนำแป้งสาลี ผงฟูอย่างละครึ่งมาผสมกัน แล้วนำกล้วยที่บดเตรียมไว้ในข้อ 2 มาผสมใส่ลงในแป้งด้วย โดยใช้แค่ครึ่งเดียวเช่นกัน
6.นำแป้งที่เหลือกับส่วนผสมอีกครึ่งในข้อ 2 มาผสมตามลงไปโดยตีส่วนผสมทั้งหมดจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
7.จากนั้นใช้ช้อนตักเนื้อขนมมาหยอดลงใน แม่พิมพ์ที่เตรียมเอาไว้แล้วนำไปอบ ในเตาอบประมาณ 30 นาที โดยใช้อุณหภูมิประมาณ 170 C เมื่ออบเสร็จแล้วให้เอาไม้จิ้มที่เนื้อขนมดูว่าสุกได้ที่หรือยังซึ่งการนำไปจิ้มดูนี้ไม่ทำให้เนื้อขนมเสียหายแต่อย่างใด
1.16.2009
มัฟฟิ่นคาราเมล ซินนามอน แอปเปิ้ล (Muffins Caramel Cinnamon Apple)
มัฟฟิ่นคาราเมล ซินนามอน แอปเปิ้ล (Muffins Caramel Cinnamon Apple)
ส่วนผสม (พิมพ์หลุมมัฟฟิ่นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 ซม. แบบ 6 ชิ้น)
เนย 70 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งสาลี 100 กรัม
แป้งซินนามอน ¼ ช้อนชา
ผงฟู 1 ช้อนชา
นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
คาราเมล แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ล 1 ลูก
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลเม็ด 60 กรัม
น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
แท่งซินนามอน 3-5 แท่ง
วิธีทำ
1.ใส่เนยและไข่ไก่เอาไว้ในถ้วย
2.วิธีทำน้ำเชื่อมแอปเปิ้ล (Caramel Apple) หั่นแอปเปิ้ลออกเป็น 4 ส่วน เอาไส้ออก หนา 1 ซม.ใส่น้ำตาลทรายและน้ำมะนาว
3.ใส่น้ำตาลเม็ดและน้ำในหม้อตั้งไฟกลางๆ ต้มให้เดือดแล้วจนสีเปลี่ยน แล้วเบาไฟลงนำในข้อ 2 ใส่ลงไปครึ่งหนึ่ง
4.ตั้งไฟอ่อนๆ อีกครั้งใส่แอปเปิ้ลทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วทิ้งไว้ให้เย็นตั้งไฟไปพร้อมๆกับคาราเมลที่ใส่ไป
5.ใส่เนยและน้ำตาลทรายในชามแล้วผสมให้เข้ากัน
6.ใส่ไข่ไก่ ผสมให้ดี
7.ใส่แป้งสาลี, แป้งซินนามอน, ผงฟูประมาณครึ่งหนึ่งและนำในข้อ 4 คาราเมลใส่ 50 ซีซี
8.แป้งที่เหลืออยู่ใส่นมผสมกันทั้งหมด
9.ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน แล้วนำคาราเมลในข้อ 4 ใส่ตามผสมกัน
10.ใช้ช้อนตักใส่ในพิมพ์แล้วปักแท่งซินนามอน ไว้ครึ่งหนึ่ง เข้าเตาอบอุณหภูมิ 170 C ประมาณ30 นาที ลองใช้ไม้แตะดูที่เนื้อขนมว่าได้หรือยัง เสร็จแล้วนำออกจากเตา
ส่วนผสม (พิมพ์หลุมมัฟฟิ่นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 7 ซม. แบบ 6 ชิ้น)
เนย 70 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งสาลี 100 กรัม
แป้งซินนามอน ¼ ช้อนชา
ผงฟู 1 ช้อนชา
นมสด 1 ช้อนโต๊ะ
คาราเมล แอปเปิ้ล
แอปเปิ้ล 1 ลูก
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลเม็ด 60 กรัม
น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
แท่งซินนามอน 3-5 แท่ง
วิธีทำ
1.ใส่เนยและไข่ไก่เอาไว้ในถ้วย
2.วิธีทำน้ำเชื่อมแอปเปิ้ล (Caramel Apple) หั่นแอปเปิ้ลออกเป็น 4 ส่วน เอาไส้ออก หนา 1 ซม.ใส่น้ำตาลทรายและน้ำมะนาว
3.ใส่น้ำตาลเม็ดและน้ำในหม้อตั้งไฟกลางๆ ต้มให้เดือดแล้วจนสีเปลี่ยน แล้วเบาไฟลงนำในข้อ 2 ใส่ลงไปครึ่งหนึ่ง
4.ตั้งไฟอ่อนๆ อีกครั้งใส่แอปเปิ้ลทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วทิ้งไว้ให้เย็นตั้งไฟไปพร้อมๆกับคาราเมลที่ใส่ไป
5.ใส่เนยและน้ำตาลทรายในชามแล้วผสมให้เข้ากัน
6.ใส่ไข่ไก่ ผสมให้ดี
7.ใส่แป้งสาลี, แป้งซินนามอน, ผงฟูประมาณครึ่งหนึ่งและนำในข้อ 4 คาราเมลใส่ 50 ซีซี
8.แป้งที่เหลืออยู่ใส่นมผสมกันทั้งหมด
9.ใช้ไม้พายคนให้เข้ากัน แล้วนำคาราเมลในข้อ 4 ใส่ตามผสมกัน
10.ใช้ช้อนตักใส่ในพิมพ์แล้วปักแท่งซินนามอน ไว้ครึ่งหนึ่ง เข้าเตาอบอุณหภูมิ 170 C ประมาณ30 นาที ลองใช้ไม้แตะดูที่เนื้อขนมว่าได้หรือยัง เสร็จแล้วนำออกจากเตา
1.15.2009
ขนมกาโตว์ บาร์ค (Cateau Basque)
ขนมกาโตว์ บาร์ค (Cateau Basque)
ส่วนผสมคัสตาร์ดชีส (แม่พิมพ์เส้นผ่าศูนย์กลาง 16 ซม. 1 พิมพ์)
ริคอตต้าชีส 140 กรัม
ไข่ขาว 1 ฟอง
ไข่แดง 1 ฟอง
น้ำตาลทราย 40 กรัม
แป้งสาลี 10 กรัม
แป้งข้าวโพด 5 กรัม
นมสด 130 ซีซี
ก้านวานิลลา 1/4 ก้าน
กลิ่นอัลมอนด์ 3 หยด
ซอสอัลมอนด์
เนยชนิดจืด 100 กรัม
น้ำตาลทราย 60 กรัม
เกลือ 1 กรัม
ไข่แดง 1 ฟอง
ผงอัลมอนด์ 80 กรัม
แป้งสาลี 40 กรัม
แป้งขนมปัง 40 กรัม
ท็อปปิ้ง
ไข่ขาว 1 ฟอง
น้ำตาลทราย 30 กรัม
ผงอัลมอนด์ 20 กรัม
กลิ่นอัลมอนด์ 3 กลิ่น
น้ำตาลไอซิ่ง 5 กรัม
วิธีทำ
1.ทำคัสตาร์ดชีส ตีไข่ขาวกับไข่แดงผสมกันเติมน้ำตาลทรายแล้วตีให้ขึ้นฟองเป็นครีมอีกครั้ง
2.ร่อนแป้งสาลีและแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกัน แล้วผสมกับข้อ 1 คนให้เข้ากัน
3.ใส่ก้านวานิลลาที่ผ่าตามยาวกับนมสดลงในหม้อเล็กแล้วอุ่น ก่อนที่จะเดือด เติมส่วนผสมจากข้อ 2 ลงไปทีละนิด
4.เทส่วนผสมจากข้อ 3 ใส่หม้ออีกใบ
5.ตั้งไฟกลางใช้ไม้พายกวนให้ร้อนทั่วๆ กันจนข้น ถ้าขนมติดข้างหม้อใช้ไม้พายแซะออกมาผสมให้เข้ากัน
6.ใส่ริคอตต้าชีสกับกลิ่นอัลมอนด์ลงในชาม เติมส่วนผสมจากข้อ 5 ผสมให้เข้ากันทั่วๆ
7.ทำซอสอัลมอนด์ ตีเนยจืดในภาชนะจนขึ้นฟองเนียน เติมน้ำตาลทรายกับเกลือผสมให้เข้ากันตีไข่แล้วเติมส่วนผสมลงไป 3 ครั้งจนเป็นครีม
8.เติมผงอัลมอนด์ตีแรงๆ ให้เข้ากัน
9.ร่อนแป้งสาลีและแป้งขนมปัง เข้าด้วยกันแล้วเติมลงไป
10.ใส่ในถุงบีบครีม หัวบีบมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-10.5 ซม. เริ่มจากก้นพิมพ์เป็นวงกลม ด้านข้างพิมพ์บีบให้ซ้อนกัน 3 ชั้น
11.นำส่วนผสมจากข้อ 6 มาใส่ อบด้วยอุณหภูมิ 180 C นานประมาณ 30 นาที
12.ระหว่างที่กำลังอบ ให้เตรียมเมอแรงก์ โดยการนำไข่ขาวกับน้ำตาลทราย 30 กรัม ตีให้ขึ้นฟองจนจับตัว โรยผงอัลมอนด์แล้วเติมกลิ่นอัลมอนด์ลงไป ใช้ไม้พายกวนให้เข้ากัน
13.เอาเค้กออกมาจากเตาอบ ทาเมอแรงก์แล้วนำน้ำตาลทรายใส่ที่กรองชา ร่อนใส่เค้กให้ทั่วๆ
14.ใส่เตาอบอีกครั้งอบด้วยอุณหภูมิ 160 C นาน 30 นาที แล้วเพิ่มอุณหภูมิขึ้นเป็น 180 C อบต่ออีก 5 นาที เสร็จแล้วทิ้งให้เย็นนำไปอุ่นให้ร้อนอีกครั้งแล้วแกะออกจากพิมพ์
ส่วนผสมคัสตาร์ดชีส (แม่พิมพ์เส้นผ่าศูนย์กลาง 16 ซม. 1 พิมพ์)
ริคอตต้าชีส 140 กรัม
ไข่ขาว 1 ฟอง
ไข่แดง 1 ฟอง
น้ำตาลทราย 40 กรัม
แป้งสาลี 10 กรัม
แป้งข้าวโพด 5 กรัม
นมสด 130 ซีซี
ก้านวานิลลา 1/4 ก้าน
กลิ่นอัลมอนด์ 3 หยด
ซอสอัลมอนด์
เนยชนิดจืด 100 กรัม
น้ำตาลทราย 60 กรัม
เกลือ 1 กรัม
ไข่แดง 1 ฟอง
ผงอัลมอนด์ 80 กรัม
แป้งสาลี 40 กรัม
แป้งขนมปัง 40 กรัม
ท็อปปิ้ง
ไข่ขาว 1 ฟอง
น้ำตาลทราย 30 กรัม
ผงอัลมอนด์ 20 กรัม
กลิ่นอัลมอนด์ 3 กลิ่น
น้ำตาลไอซิ่ง 5 กรัม
วิธีทำ
1.ทำคัสตาร์ดชีส ตีไข่ขาวกับไข่แดงผสมกันเติมน้ำตาลทรายแล้วตีให้ขึ้นฟองเป็นครีมอีกครั้ง
2.ร่อนแป้งสาลีและแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกัน แล้วผสมกับข้อ 1 คนให้เข้ากัน
3.ใส่ก้านวานิลลาที่ผ่าตามยาวกับนมสดลงในหม้อเล็กแล้วอุ่น ก่อนที่จะเดือด เติมส่วนผสมจากข้อ 2 ลงไปทีละนิด
4.เทส่วนผสมจากข้อ 3 ใส่หม้ออีกใบ
5.ตั้งไฟกลางใช้ไม้พายกวนให้ร้อนทั่วๆ กันจนข้น ถ้าขนมติดข้างหม้อใช้ไม้พายแซะออกมาผสมให้เข้ากัน
6.ใส่ริคอตต้าชีสกับกลิ่นอัลมอนด์ลงในชาม เติมส่วนผสมจากข้อ 5 ผสมให้เข้ากันทั่วๆ
7.ทำซอสอัลมอนด์ ตีเนยจืดในภาชนะจนขึ้นฟองเนียน เติมน้ำตาลทรายกับเกลือผสมให้เข้ากันตีไข่แล้วเติมส่วนผสมลงไป 3 ครั้งจนเป็นครีม
8.เติมผงอัลมอนด์ตีแรงๆ ให้เข้ากัน
9.ร่อนแป้งสาลีและแป้งขนมปัง เข้าด้วยกันแล้วเติมลงไป
10.ใส่ในถุงบีบครีม หัวบีบมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-10.5 ซม. เริ่มจากก้นพิมพ์เป็นวงกลม ด้านข้างพิมพ์บีบให้ซ้อนกัน 3 ชั้น
11.นำส่วนผสมจากข้อ 6 มาใส่ อบด้วยอุณหภูมิ 180 C นานประมาณ 30 นาที
12.ระหว่างที่กำลังอบ ให้เตรียมเมอแรงก์ โดยการนำไข่ขาวกับน้ำตาลทราย 30 กรัม ตีให้ขึ้นฟองจนจับตัว โรยผงอัลมอนด์แล้วเติมกลิ่นอัลมอนด์ลงไป ใช้ไม้พายกวนให้เข้ากัน
13.เอาเค้กออกมาจากเตาอบ ทาเมอแรงก์แล้วนำน้ำตาลทรายใส่ที่กรองชา ร่อนใส่เค้กให้ทั่วๆ
14.ใส่เตาอบอีกครั้งอบด้วยอุณหภูมิ 160 C นาน 30 นาที แล้วเพิ่มอุณหภูมิขึ้นเป็น 180 C อบต่ออีก 5 นาที เสร็จแล้วทิ้งให้เย็นนำไปอุ่นให้ร้อนอีกครั้งแล้วแกะออกจากพิมพ์
1.14.2009
ขนมครกเดนมาร์ก (A bleskiver)
ขนมครกเดนมาร์ก (A bleskiver)
ส่วนผสม 1 ที่
แป้งบัวแดง 250 กรัม
ไข่ไก่ 5 ฟอง
นมสด ½ กระป๋อง
เนยเค็มเหลว 75 กรัม
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนชา
ยีสต์ 1 ช้อนชา
มะนาว 1 ซีก
วิธีทำ
1.ผสมนมอุ่นๆ กับยีสต์ในถ้วยผสม พร้อมเนยเหลว แป้ง และไข่แดงที่แยกไข่ขาวเก็บไว้ตีส่วนผสมให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 1/2 ชั่วโมง โดยใช้ผ้าชุปน้ำบิดให้หมาด ปิดปากถ้วยผสมไว้จนขึ้นฟู
2.จากนั้นตีไข่ขาวให้ฟูแล้วนำมาผสมกัน บีบมะนาวลงไป 1 ซีก คนให้เข้ากัน แล้วนำไปหยอดในเตาขนมครกจนสุก นำมาประกบกันเป็นก้อนกลม เสิร์ฟพร้อมน้ำตาลไอซิ่ง และแยมตามชอบ
ส่วนผสม 1 ที่
แป้งบัวแดง 250 กรัม
ไข่ไก่ 5 ฟอง
นมสด ½ กระป๋อง
เนยเค็มเหลว 75 กรัม
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนชา
ยีสต์ 1 ช้อนชา
มะนาว 1 ซีก
วิธีทำ
1.ผสมนมอุ่นๆ กับยีสต์ในถ้วยผสม พร้อมเนยเหลว แป้ง และไข่แดงที่แยกไข่ขาวเก็บไว้ตีส่วนผสมให้เข้ากัน พักไว้ประมาณ 1/2 ชั่วโมง โดยใช้ผ้าชุปน้ำบิดให้หมาด ปิดปากถ้วยผสมไว้จนขึ้นฟู
2.จากนั้นตีไข่ขาวให้ฟูแล้วนำมาผสมกัน บีบมะนาวลงไป 1 ซีก คนให้เข้ากัน แล้วนำไปหยอดในเตาขนมครกจนสุก นำมาประกบกันเป็นก้อนกลม เสิร์ฟพร้อมน้ำตาลไอซิ่ง และแยมตามชอบ
1.13.2009
ขนมดาควอส (Dacquoise)
ขนมดาควอส (Dacquoise)
ส่วนผสม
ไข่ขาว 1 ฟอง
น้ำตาล 80 กรัม
ถั่วอัลมอนด์ 60 กรัม
น้ำตาล 70 กรัม
แป้ง 20 กรัม
ขนมปัง 15 กรัม
น้ำตาลทรายปริมาณพอเหมาะ
ไส้ครีมโยเกิร์ต
เนย 70 กรัม
เนยโยเกิร์ต 40 กรัม
น้ำตาล 40 กรัม
วานิลลา ¼ แท่ง
วิธีทำ
1.นำไข่ขาวที่แช่ไว้ในชาม ตีจนให้เกิดฟอง จากนั้นก็นำน้ำตาลใส่ลงชาม แล้วคลุกเคล้าด้วยกันประมาณ
2-3 รอบ ก็จะได้ส่วนของไข่ขาวเคลือบน้ำตาล
2.นำแป้งขนมปัง, น้ำตาลทรายและถั่วอัลมอนด์ละเอียดมาผสมกัน หลังจากนั้นก็ใส่ไข่ขาวข้อ 1คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน
3.นำเนื้อขนมที่ผสมกันใส่ลงในเครื่องบีบครีม จากนั้นก็บีบเนื้อขนมบนกระดาษไขจากจุดศูนย์กลางเป็นวงกลม จนเป็นเนื้อคุกกี้
4.เมื่อจัดเรียงเนื้อขนมแล้ว ก็โรยน้ำตาลให้ทั่วกระดาษไข โดยทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นโรยน้ำตาลให้ทั่วอีกครั้งหนึ่ง
5.นำเนื้อขนมเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 C ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นก็นำไปแช่ตู้เย็นเตรียมไว้ในขั้นต่อไป
6.ขั้นตอนการทำไส้ครีมโยเกิร์ตนั้น ก็ให้นำเนยใส่ลงในชาม โดยให้ใช้ไม้ตีขนมตีเนยจนเกิดฟองจากนั้นก็นำวานิลลาและน้ำตาลผสมเข้าด้วยกันหลังจากนั้นก็ใส่เนยโยเกิร์ต ผสมกันตามลงไป
7.เมื่อได้ไส้ครีมโยเกิร์ตข้อ 6 ก็นำไปทาบนเนื้อขนมข้อ 5 แล้วประกบเนื้อขนมเข้าด้วยกันจึงเสร็จสมบูรณ์
ส่วนผสม
ไข่ขาว 1 ฟอง
น้ำตาล 80 กรัม
ถั่วอัลมอนด์ 60 กรัม
น้ำตาล 70 กรัม
แป้ง 20 กรัม
ขนมปัง 15 กรัม
น้ำตาลทรายปริมาณพอเหมาะ
ไส้ครีมโยเกิร์ต
เนย 70 กรัม
เนยโยเกิร์ต 40 กรัม
น้ำตาล 40 กรัม
วานิลลา ¼ แท่ง
วิธีทำ
1.นำไข่ขาวที่แช่ไว้ในชาม ตีจนให้เกิดฟอง จากนั้นก็นำน้ำตาลใส่ลงชาม แล้วคลุกเคล้าด้วยกันประมาณ
2-3 รอบ ก็จะได้ส่วนของไข่ขาวเคลือบน้ำตาล
2.นำแป้งขนมปัง, น้ำตาลทรายและถั่วอัลมอนด์ละเอียดมาผสมกัน หลังจากนั้นก็ใส่ไข่ขาวข้อ 1คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน
3.นำเนื้อขนมที่ผสมกันใส่ลงในเครื่องบีบครีม จากนั้นก็บีบเนื้อขนมบนกระดาษไขจากจุดศูนย์กลางเป็นวงกลม จนเป็นเนื้อคุกกี้
4.เมื่อจัดเรียงเนื้อขนมแล้ว ก็โรยน้ำตาลให้ทั่วกระดาษไข โดยทิ้งไว้ 5 นาที จากนั้นโรยน้ำตาลให้ทั่วอีกครั้งหนึ่ง
5.นำเนื้อขนมเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 170 C ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นก็นำไปแช่ตู้เย็นเตรียมไว้ในขั้นต่อไป
6.ขั้นตอนการทำไส้ครีมโยเกิร์ตนั้น ก็ให้นำเนยใส่ลงในชาม โดยให้ใช้ไม้ตีขนมตีเนยจนเกิดฟองจากนั้นก็นำวานิลลาและน้ำตาลผสมเข้าด้วยกันหลังจากนั้นก็ใส่เนยโยเกิร์ต ผสมกันตามลงไป
7.เมื่อได้ไส้ครีมโยเกิร์ตข้อ 6 ก็นำไปทาบนเนื้อขนมข้อ 5 แล้วประกบเนื้อขนมเข้าด้วยกันจึงเสร็จสมบูรณ์
1.12.2009
ขนมพุดดิ้งโยเกิร์ต (Yogurt Pudding)
ขนมพุดดิ้งโยเกิร์ต (Yogurt Pudding)
ส่วนผสม (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ซม.)
ผงแป้งเจลลาติน 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 70 ซีซี
ไข่แดง 3 ฟอง
น้ำตาล 70 กรัม
นม 150 ซีซี
วานิลลา ¼ แท่ง
ไส้คาราเมล
น้ำตาล 50 กรัม
น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อน 2-3 ช้อนโต๊ะ เหล้าหมัก 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.นำผงแป้งเจลลาตินใส่ลงในน้ำปริมาณครึ่งส่วน แล้วแช่ทิ้งไว้
2.นำไข่แดงที่คนไว้ใส่ลงชาม จากนั้นก็ใส่น้ำตาล แล้วผสมเข้าด้วยกัน
(ในส่วนของน้ำตาลกับไข่แดงนั้น ให้ผสมเข้าด้วยกันโดยไม่ให้เกิดฟองเพื่อไม่ให้รสชาติเปลี่ยนแปลง)
3.นำน้ำร้อนใส่ลงในชามไข่แดง จากนั้นก็ตั้งไฟ แล้วกวนเข้าด้วยกัน
4.นำวานิลลากับนมใส่ลงในหม้อต้ม จากนั้นก็นำน้ำไข่แดงในข้อ 3 ใส่ตามลงไปแล้วก็ผสมให้เข้ากัน
5.เมื่อผสมกันได้ที่แล้วก็ นำแป้งเจลลาตินในข้อ 1 ใส่ลงในหม้อต้ม แล้วกวนเข้ากัน
6.เมื่อกวนจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วก็ใส่โยเกิร์ตลงไป โดยตั้งไฟอ่อนพอประมาณ
7.นำเนื้อแป้งเทใส่ลงในแม่พิมพ์ จากนั้นก็นำไปแช่เย็นเตรียมไว้ในขั้นต่อไป
8.ขั้นตอนการทำไส้คาราเมลนั้น ก็นำน้ำและน้ำตาลใส่ลงในหม้อโดยตั้งไฟขนาดกลางเมื่อต้มจนร้อนได้ที่แล้วก็นำน้ำร้อนเติมลงไปในปริมาณเล็กน้อย จากนั้นก็ตั้งไฟอ่อนแล้วทิ้งไว้ชั่วครู่ ต่อจากนั้นก็เติมเหล้าหมักคลุกเคล้ากันไปแล้ว แช่ตู้เย็นพอประมาณ
9.เมื่อได้ไส้คาราเมลแล้ว ก็ให้โรยใส่เค้กบนแม่พิมพ์ เป็นขั้นตอนสุดท้าย
ส่วนผสม (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ซม.)
ผงแป้งเจลลาติน 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 70 ซีซี
ไข่แดง 3 ฟอง
น้ำตาล 70 กรัม
นม 150 ซีซี
วานิลลา ¼ แท่ง
ไส้คาราเมล
น้ำตาล 50 กรัม
น้ำ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำร้อน 2-3 ช้อนโต๊ะ เหล้าหมัก 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.นำผงแป้งเจลลาตินใส่ลงในน้ำปริมาณครึ่งส่วน แล้วแช่ทิ้งไว้
2.นำไข่แดงที่คนไว้ใส่ลงชาม จากนั้นก็ใส่น้ำตาล แล้วผสมเข้าด้วยกัน
(ในส่วนของน้ำตาลกับไข่แดงนั้น ให้ผสมเข้าด้วยกันโดยไม่ให้เกิดฟองเพื่อไม่ให้รสชาติเปลี่ยนแปลง)
3.นำน้ำร้อนใส่ลงในชามไข่แดง จากนั้นก็ตั้งไฟ แล้วกวนเข้าด้วยกัน
4.นำวานิลลากับนมใส่ลงในหม้อต้ม จากนั้นก็นำน้ำไข่แดงในข้อ 3 ใส่ตามลงไปแล้วก็ผสมให้เข้ากัน
5.เมื่อผสมกันได้ที่แล้วก็ นำแป้งเจลลาตินในข้อ 1 ใส่ลงในหม้อต้ม แล้วกวนเข้ากัน
6.เมื่อกวนจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้วก็ใส่โยเกิร์ตลงไป โดยตั้งไฟอ่อนพอประมาณ
7.นำเนื้อแป้งเทใส่ลงในแม่พิมพ์ จากนั้นก็นำไปแช่เย็นเตรียมไว้ในขั้นต่อไป
8.ขั้นตอนการทำไส้คาราเมลนั้น ก็นำน้ำและน้ำตาลใส่ลงในหม้อโดยตั้งไฟขนาดกลางเมื่อต้มจนร้อนได้ที่แล้วก็นำน้ำร้อนเติมลงไปในปริมาณเล็กน้อย จากนั้นก็ตั้งไฟอ่อนแล้วทิ้งไว้ชั่วครู่ ต่อจากนั้นก็เติมเหล้าหมักคลุกเคล้ากันไปแล้ว แช่ตู้เย็นพอประมาณ
9.เมื่อได้ไส้คาราเมลแล้ว ก็ให้โรยใส่เค้กบนแม่พิมพ์ เป็นขั้นตอนสุดท้าย
1.11.2009
คราฟูตีโยเกิร์ต (Yogurt Clafoutis)
คราฟูตีโยเกิร์ต (Yogurt Clafoutis)
ส่วนผสม (ถาดที่ทนความร้อนขนาด 23.5x3.5 ซม. 1 ถาด)
น้ำตาล 100 กรัม
แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
อัลมอนด์บด 3 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ต 200 ซีซี
ไข่แดง 1 ฟอง
ไข่ 3 ฟอง
ครีมสด 100 ซีซี
เชอร์รี่ (กระป๋อง) 150 กรัม
ผลไม้ (กระป๋องตามความชอบ) 3 ส่วน
วิธีทำ
1.นำอัลมอนด์บด, แป้งข้าวโพด, น้ำตาลใส่ลงในชาม แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นเพิ่มโยเกิร์ตลงไป เวลาที่คนพยามยามอย่าให้เกิดฟองขึ้นมา
2.ตีไข่แดงกับไข่ขาวเข้าด้วยกัน แล้วนำไปใส่ลงในข้อ 1 คนให้เข้ากัน
3.เพิ่มครีมสดลงไป
4.พับผ้าเช็ดจานแล้ววางลงไปที่ชาม แล้วเทส่วนผสมของข้อ 3 เทลงในถาดที่ทนความร้อนอีกถาดในปริมาณ 2/3 แล้วให้ใส่น้ำร้อนลงไปที่ถาดด้านนอก จากนั้นนำเข้าเตาอบ 15-20 นาทีในอุณหภูมิ 180 C
5.แกะเชอร์รี่ กระป๋องออกมา แล้วหั่นให้มีขนาดพอดีคำ โดยไม่ใหญ่จนเกินไป
6.เทส่วนผสมของข้อ 3 ที่เหลือลงไป แล้วนำเชอร์รี่ที่ได้ทำไว้ในข้อ 5 ใส่ลงไปที่ด้านบน นำไปอบประมาณ 10-15 นาทีอีกครั้ง
ส่วนผสม (ถาดที่ทนความร้อนขนาด 23.5x3.5 ซม. 1 ถาด)
น้ำตาล 100 กรัม
แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
อัลมอนด์บด 3 ช้อนโต๊ะ
โยเกิร์ต 200 ซีซี
ไข่แดง 1 ฟอง
ไข่ 3 ฟอง
ครีมสด 100 ซีซี
เชอร์รี่ (กระป๋อง) 150 กรัม
ผลไม้ (กระป๋องตามความชอบ) 3 ส่วน
วิธีทำ
1.นำอัลมอนด์บด, แป้งข้าวโพด, น้ำตาลใส่ลงในชาม แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นเพิ่มโยเกิร์ตลงไป เวลาที่คนพยามยามอย่าให้เกิดฟองขึ้นมา
2.ตีไข่แดงกับไข่ขาวเข้าด้วยกัน แล้วนำไปใส่ลงในข้อ 1 คนให้เข้ากัน
3.เพิ่มครีมสดลงไป
4.พับผ้าเช็ดจานแล้ววางลงไปที่ชาม แล้วเทส่วนผสมของข้อ 3 เทลงในถาดที่ทนความร้อนอีกถาดในปริมาณ 2/3 แล้วให้ใส่น้ำร้อนลงไปที่ถาดด้านนอก จากนั้นนำเข้าเตาอบ 15-20 นาทีในอุณหภูมิ 180 C
5.แกะเชอร์รี่ กระป๋องออกมา แล้วหั่นให้มีขนาดพอดีคำ โดยไม่ใหญ่จนเกินไป
6.เทส่วนผสมของข้อ 3 ที่เหลือลงไป แล้วนำเชอร์รี่ที่ได้ทำไว้ในข้อ 5 ใส่ลงไปที่ด้านบน นำไปอบประมาณ 10-15 นาทีอีกครั้ง
1.10.2009
ครีมบรูเล่ (Cream Brulee)
ครีมบรูเล่ (Cream Brulee)
ส่วนผสม 1 ที่
วิปปิ้งครีม 100 กรัม
นมข้นจืด 40 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
ไข่แดง 2 ฟอง
วิธีทำ
1.ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้วนำไปตุ๋นประมาณ 45 นาที พักให้เย็นลง จากนั้นเทใส่แม่พิมพ์แล้วนำไปแช่เย็นให้แข็งตัว
2.โรยหน้าให้ทั่วด้วยน้ำตาลไอซิ่งเล็กน้อยแล้วนำเข้าเตาอบ อบพอให้น้ำตาลไหม้และมีกลิ่นหอมนำออกมาพักให้เย็น (หรือเข้าตู้เย็นเพื่อรอให้แข็งตัวอีกครั้ง)
ส่วนผสม 1 ที่
วิปปิ้งครีม 100 กรัม
นมข้นจืด 40 กรัม
น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา
ไข่แดง 2 ฟอง
วิธีทำ
1.ตีส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้วนำไปตุ๋นประมาณ 45 นาที พักให้เย็นลง จากนั้นเทใส่แม่พิมพ์แล้วนำไปแช่เย็นให้แข็งตัว
2.โรยหน้าให้ทั่วด้วยน้ำตาลไอซิ่งเล็กน้อยแล้วนำเข้าเตาอบ อบพอให้น้ำตาลไหม้และมีกลิ่นหอมนำออกมาพักให้เย็น (หรือเข้าตู้เย็นเพื่อรอให้แข็งตัวอีกครั้ง)
1.09.2009
คลาฟูตีชีสผลไม้ (Fruits Cheese Clafoutis)
คลาฟูตีชีสผลไม้ (Fruits Cheese Clafoutis)
ส่วนผสม จานทนความร้อนขนาด 22x12 ซม. 1 ใบ
ครีมเปรี้ยว 100 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ 1 ฟอง
ครีมสด 70 ซีซี
เหล้าโพวาล 1 ช้อนโต๊ะ
ลูกแพร์ 2 ลูก
องุ่นผลใหญ่ 12 ผล
วิธีทำ
1.ผสมน้ำตาลทรายกับครีมเปรี้ยว คนให้เข้ากันโดยใช้ตระกร้อมือ แล้วจึงใส่แป้งข้าวโพด(แป้งข้าวโพด ผ่านการร่อน 2 ครั้ง) เพิ่มลงไป ผสมให้เข้ากัน
2.ใส่ไข่ที่ตีแล้วลงไป โดยแบ่งใส่เป็น 3 ครั้ง คนผสมให้ส่วนผสมทั้งหมดมีสภาพเป็นครีม
3.ใส่ครีมสดและเหล้าโพวาลเพิ่มลงไปคนผสมให้เข้ากัน
4.เทส่วนผสมในข้อ 3 ลงไปในจานทนความร้อน แล้วจึงวางเรียงลูกแพร์และองุ่นผลใหญ่
5.นำเข้าเตาอบ ใช้อุณหภูมิ ประมาณ 200 C ประมาณ 30 นาที
ส่วนผสม จานทนความร้อนขนาด 22x12 ซม. 1 ใบ
ครีมเปรี้ยว 100 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
ไข่ 1 ฟอง
ครีมสด 70 ซีซี
เหล้าโพวาล 1 ช้อนโต๊ะ
ลูกแพร์ 2 ลูก
องุ่นผลใหญ่ 12 ผล
วิธีทำ
1.ผสมน้ำตาลทรายกับครีมเปรี้ยว คนให้เข้ากันโดยใช้ตระกร้อมือ แล้วจึงใส่แป้งข้าวโพด(แป้งข้าวโพด ผ่านการร่อน 2 ครั้ง) เพิ่มลงไป ผสมให้เข้ากัน
2.ใส่ไข่ที่ตีแล้วลงไป โดยแบ่งใส่เป็น 3 ครั้ง คนผสมให้ส่วนผสมทั้งหมดมีสภาพเป็นครีม
3.ใส่ครีมสดและเหล้าโพวาลเพิ่มลงไปคนผสมให้เข้ากัน
4.เทส่วนผสมในข้อ 3 ลงไปในจานทนความร้อน แล้วจึงวางเรียงลูกแพร์และองุ่นผลใหญ่
5.นำเข้าเตาอบ ใช้อุณหภูมิ ประมาณ 200 C ประมาณ 30 นาที
1.08.2009
เค้กเนยถั่ว (Caramel Nuts Cake)
เค้กเนยถั่ว (Caramel Nuts Cake)
ส่วนผสม (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 21 ซม.)
ไข่ 3 ฟอง
น้ำตาล 150 กรัม
ถั่วอัลมอนด์ 70 กรัม
แป้งสาลี 120 กรัม
ผงแป้งขนมปัง 1 ช้อนโต๊ะ
เนย 30 กรัม
เนยโยเกิร์ต 70 กรัม
เปลือกมะนาว ½ ลูก
ถั่วเคลือบคาราเมล
ถั่วอัลมอนด์ 100 กรัม
ครีมสด 60 กรัม
น้ำตาล 40 กรัม
เนย 30 กรัม
น้ำผึ้ง 1 ½ ช้อนโต๊ะ
ผงแป้งอบ ปริมาณพอเหมาะ
วิธีทำ
1.นำเนยทาภายในขอบภาชนะบางๆ แล้วทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นก็โรยผงแป้งอบทิ้งไว้ (เมื่อตอนที่ทาเนยทิ้งไว้นั้นก็ให้แช่ไว้จนภายในขอบภาชนะเริ่มลื่น) หลังจากนั้นก็ตัดกระดาษไขเป็นรูปวงกลมวางตรงฐานภาชนะเตรียมไว้
2.นำไข่และน้ำตาลใส่ลงในชามตามลำดับ จากนั้นก็ใช้เครื่องมือตีไข่จนเกิดฟองแล้วตั้งไฟพอเหมาะโดยให้เนื้อไข่มีสีเข้มข้นขึ้น
3.นำถั่วอัลมอนด์, แป้งสาลีและผงแป้งขนมปังมาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นก็นำไปใส่ลงชามไข่แล้วกวนเข้าด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
4.นำเนย, เปลือกมะนาวและเนยโยเกิร์ต มาผสมเข้าด้วยกันจากนั้นก็ตั้งไฟอุ่นไว้ 15-45 นาทีเมื่อเนยละลายกับเปลือกมะนาวเข้าด้วยกันแล้วก็นำส่วนผสมข้อ 3 มาคลุกเคล้ากันให้เป็นหนึ่งเดียว
5.นำส่วนที่คลุกเคล้ากันข้อ 4 ใส่ลงในภาชนะ แล้วนำไปเข้าเตาอบอุณหภูมิ 170 C ประมาณ 35 นาที(ในการผสมส่วนผสมเข้ากันให้ใช้เครื่องมือตีให้ทั่วบริเวณ แล้วนำไปเข้าเตาอบให้เนื้อเค้กดูพองขึ้น)
6.ขั้นตอนการทำถั่วเคลือบคาราเมลนั้น ก็ให้นำถั่วอัลมอนด์ไปอบอุณหภูมิ 160 C ประมาณ 15-20 นาทีเตรียมไว้จากนั้นก็นำครีมสด, น้ำตาล, เนยและน้ำผึ้งใส่ลงในหม้อต้ม แล้วเติมถั่วอัลมอนด์ที่อบไว้ลงไปโดย ต้มอีกประมาณ 2-3 นาที
7.นำส่วนถั่วอัลมอนด์เคลือบคาราเมลข้อ 6 โรยทับบนเนื้อเค้กให้ทั่ว จากนั้นก็นำไปอบอุณหภูมิ 180 Cประมาณ 10-15 นาที
8.เมื่ออบจนได้ที่แล้ว ก็ให้นำแช่ไว้บนตะแกรง จากนั้นก็ตัดเค้กเป็นชิ้นๆ ตามที่ต้องการ
ส่วนผสม (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 21 ซม.)
ไข่ 3 ฟอง
น้ำตาล 150 กรัม
ถั่วอัลมอนด์ 70 กรัม
แป้งสาลี 120 กรัม
ผงแป้งขนมปัง 1 ช้อนโต๊ะ
เนย 30 กรัม
เนยโยเกิร์ต 70 กรัม
เปลือกมะนาว ½ ลูก
ถั่วเคลือบคาราเมล
ถั่วอัลมอนด์ 100 กรัม
ครีมสด 60 กรัม
น้ำตาล 40 กรัม
เนย 30 กรัม
น้ำผึ้ง 1 ½ ช้อนโต๊ะ
ผงแป้งอบ ปริมาณพอเหมาะ
วิธีทำ
1.นำเนยทาภายในขอบภาชนะบางๆ แล้วทิ้งไว้สักครู่ จากนั้นก็โรยผงแป้งอบทิ้งไว้ (เมื่อตอนที่ทาเนยทิ้งไว้นั้นก็ให้แช่ไว้จนภายในขอบภาชนะเริ่มลื่น) หลังจากนั้นก็ตัดกระดาษไขเป็นรูปวงกลมวางตรงฐานภาชนะเตรียมไว้
2.นำไข่และน้ำตาลใส่ลงในชามตามลำดับ จากนั้นก็ใช้เครื่องมือตีไข่จนเกิดฟองแล้วตั้งไฟพอเหมาะโดยให้เนื้อไข่มีสีเข้มข้นขึ้น
3.นำถั่วอัลมอนด์, แป้งสาลีและผงแป้งขนมปังมาผสมเข้าด้วยกัน จากนั้นก็นำไปใส่ลงชามไข่แล้วกวนเข้าด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
4.นำเนย, เปลือกมะนาวและเนยโยเกิร์ต มาผสมเข้าด้วยกันจากนั้นก็ตั้งไฟอุ่นไว้ 15-45 นาทีเมื่อเนยละลายกับเปลือกมะนาวเข้าด้วยกันแล้วก็นำส่วนผสมข้อ 3 มาคลุกเคล้ากันให้เป็นหนึ่งเดียว
5.นำส่วนที่คลุกเคล้ากันข้อ 4 ใส่ลงในภาชนะ แล้วนำไปเข้าเตาอบอุณหภูมิ 170 C ประมาณ 35 นาที(ในการผสมส่วนผสมเข้ากันให้ใช้เครื่องมือตีให้ทั่วบริเวณ แล้วนำไปเข้าเตาอบให้เนื้อเค้กดูพองขึ้น)
6.ขั้นตอนการทำถั่วเคลือบคาราเมลนั้น ก็ให้นำถั่วอัลมอนด์ไปอบอุณหภูมิ 160 C ประมาณ 15-20 นาทีเตรียมไว้จากนั้นก็นำครีมสด, น้ำตาล, เนยและน้ำผึ้งใส่ลงในหม้อต้ม แล้วเติมถั่วอัลมอนด์ที่อบไว้ลงไปโดย ต้มอีกประมาณ 2-3 นาที
7.นำส่วนถั่วอัลมอนด์เคลือบคาราเมลข้อ 6 โรยทับบนเนื้อเค้กให้ทั่ว จากนั้นก็นำไปอบอุณหภูมิ 180 Cประมาณ 10-15 นาที
8.เมื่ออบจนได้ที่แล้ว ก็ให้นำแช่ไว้บนตะแกรง จากนั้นก็ตัดเค้กเป็นชิ้นๆ ตามที่ต้องการ
1.07.2009
เค้กบราวนี่ส์ (Brownies Cake)
เค้กบราวนี่ส์ (Brownies Cake)
ส่วนผสม 3 ปอนด์
แป้งอเนกประสงค์ 225 กรัม
ช็อกโกแลตไม่หวาน 150 กรัม
นมข้นจืด ½ ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำตาล 200 กรัม
เม็ดอัลมอนด์คั่วสับหยาบ 70 กรัม
วิธีทำ
1.ตีไข่ให้ขึ้น แล้วค่อยๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไปทีละอย่างจนครบ จากนั้นตีให้เข้ากันดีแล้วเทใส่ถาด หรือพิมพ์สี่เหลี่ยมนำเข้าอบความร้อน 350 F ประมาณ 45 นาทีจนสุก
2.แต่งหน้าด้วยบัตเตอร์ครีมกาแฟที่มีส่วนผสมของเนยละลาย 125 กรัม นำมาตีกับน้ำตาลไอซิ่ง1 ถ้วย น้ำกาแฟเข้มข้น 3 ช้อนโต๊ะ จนเนียนเข้ากัน โรยตกแต่งด้วยผงโกโก้อีกเล็กน้อย
ส่วนผสม 3 ปอนด์
แป้งอเนกประสงค์ 225 กรัม
ช็อกโกแลตไม่หวาน 150 กรัม
นมข้นจืด ½ ถ้วย
ไข่ไก่ 2 ฟอง
น้ำตาล 200 กรัม
เม็ดอัลมอนด์คั่วสับหยาบ 70 กรัม
วิธีทำ
1.ตีไข่ให้ขึ้น แล้วค่อยๆ ใส่ส่วนผสมที่เหลือทั้งหมดลงไปทีละอย่างจนครบ จากนั้นตีให้เข้ากันดีแล้วเทใส่ถาด หรือพิมพ์สี่เหลี่ยมนำเข้าอบความร้อน 350 F ประมาณ 45 นาทีจนสุก
2.แต่งหน้าด้วยบัตเตอร์ครีมกาแฟที่มีส่วนผสมของเนยละลาย 125 กรัม นำมาตีกับน้ำตาลไอซิ่ง1 ถ้วย น้ำกาแฟเข้มข้น 3 ช้อนโต๊ะ จนเนียนเข้ากัน โรยตกแต่งด้วยผงโกโก้อีกเล็กน้อย
1.06.2009
แพนเค้กชาเขียวไส้ถั่วแดง
แพนเค้กชาเขียวไส้ถั่วแดง
ใครหลายๆ คนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีกับเบเกอรี่ชนิดนี้ในการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน เพราะว่าเป็นขนมสุดโปรดของโดราเอมอน ตัวการ์ตูนขวัญใจเด็กๆ ทุกคนนั่นเอง เป็นขนมสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเรียกจำง่ายๆ ว่า "โดรายากิ" หรือ "Dorayaki"ค่ะ
ส่วนผสม
แป้งเค้ก 120 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟองน้ำตาลทราย 100 กรัม
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
ชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู 1 ช้อนชาน้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1.ผสมแป้ง ผงฟู ชาเขียว รวมกัน
2.ตีไข่ น้ำตาลทราย จนกระทั่งขึ้นฟูขาว
3.ใส่น้ำเปล่า น้ำผึ้ง ส่วนผสมแป้ง ผสมให้เข้ากัน พักแป้งไว้ 3 นาที
4.นำแป้งไปหยอดบนกะทะเทฟลอน จี่แป้งให้เหลืองด้านเดียว ตักไส้ใส่ประกบแป้งให้ติดกัน
ส่วนผสม
ไส้ถั่วแดง 1/2 กก.
น้ำตาลทราย 400 กรัม
แบะแซ 2 ช้อนโต๊ะ
เนยสด 100 กรัม
วิธีทำ
1.แช่ถั่วแดงข้ามคืน
2.ต้มถั่วแดงกับน้ำจนกระทั่งเปื่อย นำมากวนพอแห้งใส่น้ำตาลทราย แบะแซ และเนยสด
3.กวนต่อจนส่วนผสมแห้ง
4.นำไส้ถั่วแดงมาทาที่แพนเค้ก พร้อมกับนำแพนเค้กอีกด้านมาประกบคล้ายแซนด์วิชได้เลย
ใครหลายๆ คนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีกับเบเกอรี่ชนิดนี้ในการ์ตูนเรื่องโดราเอมอน เพราะว่าเป็นขนมสุดโปรดของโดราเอมอน ตัวการ์ตูนขวัญใจเด็กๆ ทุกคนนั่นเอง เป็นขนมสายพันธุ์ญี่ปุ่นที่มีชื่อเรียกจำง่ายๆ ว่า "โดรายากิ" หรือ "Dorayaki"ค่ะ
ส่วนผสม
แป้งเค้ก 120 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟองน้ำตาลทราย 100 กรัม
น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
ชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู 1 ช้อนชาน้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1.ผสมแป้ง ผงฟู ชาเขียว รวมกัน
2.ตีไข่ น้ำตาลทราย จนกระทั่งขึ้นฟูขาว
3.ใส่น้ำเปล่า น้ำผึ้ง ส่วนผสมแป้ง ผสมให้เข้ากัน พักแป้งไว้ 3 นาที
4.นำแป้งไปหยอดบนกะทะเทฟลอน จี่แป้งให้เหลืองด้านเดียว ตักไส้ใส่ประกบแป้งให้ติดกัน
ส่วนผสม
ไส้ถั่วแดง 1/2 กก.
น้ำตาลทราย 400 กรัม
แบะแซ 2 ช้อนโต๊ะ
เนยสด 100 กรัม
วิธีทำ
1.แช่ถั่วแดงข้ามคืน
2.ต้มถั่วแดงกับน้ำจนกระทั่งเปื่อย นำมากวนพอแห้งใส่น้ำตาลทราย แบะแซ และเนยสด
3.กวนต่อจนส่วนผสมแห้ง
4.นำไส้ถั่วแดงมาทาที่แพนเค้ก พร้อมกับนำแพนเค้กอีกด้านมาประกบคล้ายแซนด์วิชได้เลย
เค้กบัตเตอร์-เมล็ดป็อปปี้ (Poppy Seed Butter Cake)
เค้กบัตเตอร์-เมล็ดป็อปปี้ (Poppy Seed Butter Cake)
ส่วนผสม 3 ปอนด์
แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เนย 250 กรัม
นมข้นจืด 120 กรัม
น้ำตาล 360 กรัม
น้ำส้มคั้น 110 กรัม
แยมส้ม 1/2 ถ้วย
เมล็ดป็อปปี้ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.ตีเนยกับน้ำตาล ค่อยๆใส่ไข่ทีละฟองสลับกับแป้งและนม ตีผสมให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำส้มคั้น ใส่เมล็ดป็อปปี้ แล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง
2.เทส่วนผสมที่ได้ลงในถาดพิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าเตาอบความร้อน 350 F ประมาณ45 นาทีจนสุก พักไว้จนเย็น แล้วนำมาทาแต่งหน้าด้วยแยมสัม
ส่วนผสม 3 ปอนด์
แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เนย 250 กรัม
นมข้นจืด 120 กรัม
น้ำตาล 360 กรัม
น้ำส้มคั้น 110 กรัม
แยมส้ม 1/2 ถ้วย
เมล็ดป็อปปี้ 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.ตีเนยกับน้ำตาล ค่อยๆใส่ไข่ทีละฟองสลับกับแป้งและนม ตีผสมให้เข้ากัน จากนั้นเติมน้ำส้มคั้น ใส่เมล็ดป็อปปี้ แล้วคนให้เข้ากันอีกครั้ง
2.เทส่วนผสมที่ได้ลงในถาดพิมพ์ที่เตรียมไว้ นำเข้าเตาอบความร้อน 350 F ประมาณ45 นาทีจนสุก พักไว้จนเย็น แล้วนำมาทาแต่งหน้าด้วยแยมสัม
1.05.2009
เค้กปอนด์ (Pound Cake)
เค้กปอนด์ (Pound Cake)
ส่วนผสม (ขนาดหนึ่งปอนด์ 18x9x8 ซม.)
เนย 150กรัม
น้ำตาลทราย140กรัม
ไข่3ฟอง
แป้งสาลี200กรัม
ผงฟู2ช้อนชา
กลิ่นวานิลลา1/2ช้อนชา
วิธีทำ
1.ตีเนยกับไข่ให้เข้ากัน (สามารถใช้ปริมาณมากกว่านี้ได้) นำมาทาบนกระดาษ
2.ใส่เนยกับน้ำตาลทราย ลงในชามตีให้เข้ากัน (ถ้าต้องการความสะดวกสามารถใช้เครื่องตีได้)
3.ใส่ไข่ประมาณ 1/3 ใส่แป้งสาลีกับผงฟูลงในปริมาณ 1/3 ตีให้เข้ากัน
4.นำส่วนผสมทั้งหมดผสมกันแล้วตีให้ละเอียด
5.ใส่กลิ่นวานิลลาลงไป
6.ให้นำส่วนผสมใส่ลงในแม่พิมพ์ ในอุณหภูมิ 180 C เป็นเวลา 10 นาที นำออกมากลับด้านแล้วใช้มีดหั่น นำไปอบอีก 30-40 นาที นำไม้มาแทงให้ทั่วขนมเพื่อดูว่าขนมสุกทั่วหรือไม่
ส่วนผสม (ขนาดหนึ่งปอนด์ 18x9x8 ซม.)
เนย 150กรัม
น้ำตาลทราย140กรัม
ไข่3ฟอง
แป้งสาลี200กรัม
ผงฟู2ช้อนชา
กลิ่นวานิลลา1/2ช้อนชา
วิธีทำ
1.ตีเนยกับไข่ให้เข้ากัน (สามารถใช้ปริมาณมากกว่านี้ได้) นำมาทาบนกระดาษ
2.ใส่เนยกับน้ำตาลทราย ลงในชามตีให้เข้ากัน (ถ้าต้องการความสะดวกสามารถใช้เครื่องตีได้)
3.ใส่ไข่ประมาณ 1/3 ใส่แป้งสาลีกับผงฟูลงในปริมาณ 1/3 ตีให้เข้ากัน
4.นำส่วนผสมทั้งหมดผสมกันแล้วตีให้ละเอียด
5.ใส่กลิ่นวานิลลาลงไป
6.ให้นำส่วนผสมใส่ลงในแม่พิมพ์ ในอุณหภูมิ 180 C เป็นเวลา 10 นาที นำออกมากลับด้านแล้วใช้มีดหั่น นำไปอบอีก 30-40 นาที นำไม้มาแทงให้ทั่วขนมเพื่อดูว่าขนมสุกทั่วหรือไม่
1.04.2009
เค้กปอนด์ชา (Tea Cake)
เค้กปอนด์ชา (Tea Cake)
ส่วนผสม
(ขนาดหนึ่งปอนด์ 18x9x8 ซม. สำหรับ 1 ที่หรือแบบพิมพ์ขนาด 9.5x4.5x4 ซม. สำหรับ 10 อัน)
เนย 150 กรัม
น้ำตาลทราย 130 กรัม
ไข่ 3 ฟอง
แป้งสาลี 200 กรัม
ผงฟู 2 ช้อนชา
ชาถุง 3 ซอง
น้ำร้อน 30 ซีซี
ขอแนะนำชา เอิร์ลเกรย์ ซึ่งเป็นชาที่มีกลิ่นหอมมาก
วิธีทำ
1.ทาเนยลงในแบบพิมพ์ (ตามปริมาณที่ต้องการ) แล้วตัดกระดาษวางลงในแบบพิมพ์
2.เอาไส้ชาในถุงออก รินน้ำร้อนใส่แล้วใช้ฟิล์มถนอมอาหารคลุมไว้เพื่อนึ่งให้ร้อน
3.ใส่เนยลงในชามตีจนเกิดฟองแล้วเติมน้ำตาลทรายตีให้เข้ากัน จนเป็นครีม ใช้ตระกร้อมือตีผสมจนจับตัวกันได้ดี
4.ใส่ไข่ลงไปประมาณ 1/3 ฟองและร่อนแป้งสาลีกับผงฟูใส่ลงไปประมาณ 1/3 ผสมให้เข้ากัน
5.จากข้อ 4 ผสมให้เข้ากันจนทั้งหมดจับตัวกันจนแป้งเนียนละเอียด
6.นำไส้ชาที่ได้จากข้อ 2 ผสมลงไป ใช้ไม้พายกวนให้ทั่วๆ
7.เทใส่แบบพิมพ์ให้ทั่วๆ นำไปอบในเตาอบด้วยอุณหภูมิ 180 C นานประมาณ 10 นาที จนแห้งแล้วจึงเอาออกใช้มีดตัดลึกๆ แล้วอบต่ออีก นานประมาณ 30-40 นาทีแล้วใช้ไม้ปลายแหลมลองจิ้มเนื้อข้างในดูแป้งเค้กต้องขึ้นจึงจะใช้ได้ในกรณีที่ใช้แบบพิมพ์เค้กปอนด์เล็กให้อบด้วยอุณหภูมิ170 C นานประมาณ 30 นาที
ส่วนผสม
(ขนาดหนึ่งปอนด์ 18x9x8 ซม. สำหรับ 1 ที่หรือแบบพิมพ์ขนาด 9.5x4.5x4 ซม. สำหรับ 10 อัน)
เนย 150 กรัม
น้ำตาลทราย 130 กรัม
ไข่ 3 ฟอง
แป้งสาลี 200 กรัม
ผงฟู 2 ช้อนชา
ชาถุง 3 ซอง
น้ำร้อน 30 ซีซี
ขอแนะนำชา เอิร์ลเกรย์ ซึ่งเป็นชาที่มีกลิ่นหอมมาก
วิธีทำ
1.ทาเนยลงในแบบพิมพ์ (ตามปริมาณที่ต้องการ) แล้วตัดกระดาษวางลงในแบบพิมพ์
2.เอาไส้ชาในถุงออก รินน้ำร้อนใส่แล้วใช้ฟิล์มถนอมอาหารคลุมไว้เพื่อนึ่งให้ร้อน
3.ใส่เนยลงในชามตีจนเกิดฟองแล้วเติมน้ำตาลทรายตีให้เข้ากัน จนเป็นครีม ใช้ตระกร้อมือตีผสมจนจับตัวกันได้ดี
4.ใส่ไข่ลงไปประมาณ 1/3 ฟองและร่อนแป้งสาลีกับผงฟูใส่ลงไปประมาณ 1/3 ผสมให้เข้ากัน
5.จากข้อ 4 ผสมให้เข้ากันจนทั้งหมดจับตัวกันจนแป้งเนียนละเอียด
6.นำไส้ชาที่ได้จากข้อ 2 ผสมลงไป ใช้ไม้พายกวนให้ทั่วๆ
7.เทใส่แบบพิมพ์ให้ทั่วๆ นำไปอบในเตาอบด้วยอุณหภูมิ 180 C นานประมาณ 10 นาที จนแห้งแล้วจึงเอาออกใช้มีดตัดลึกๆ แล้วอบต่ออีก นานประมาณ 30-40 นาทีแล้วใช้ไม้ปลายแหลมลองจิ้มเนื้อข้างในดูแป้งเค้กต้องขึ้นจึงจะใช้ได้ในกรณีที่ใช้แบบพิมพ์เค้กปอนด์เล็กให้อบด้วยอุณหภูมิ170 C นานประมาณ 30 นาที
1.03.2009
เค้กปอนด์ส้ม (Orange Cake)
เค้กปอนด์ส้ม (Orange Cake)
ส่วนผสม (ขนาดหนึ่งปอนด์ 18x9x8 ซม.)
เนย 100 กรัม
น้ำตาลทราย 120 กรัม
ไข่ไก่ 3 ฟอง
เปลือกส้ม 1 ลูก
แป้งสาลี 210 กรัม
ผงฟู 2 ช้อนชา
น้ำส้ม (100%) 60 ซีซี
น้ำเลมอน 40 ซีซี
เนื้อส้ม 1 ผล
วิธีทำ
1.เตรียมเนยและไข่ไก่ ทาเนย (มากน้อยแล้วแต่ชอบ) ในแบบพิมพ์ตัดกระดาษพิมพ์
2.ขูดเอาเปลือกส้ม แล้วเอาเปลือกบางๆ ออกด้วยมีด
3.ใส่น้ำส้มและน้ำเลมอน
4.ใส่เนยในขามและใส่น้ำตาลทรายลงไปผสมให้เข้ากัน
5.ใส่ไข่ไก่ไป 1/3 และใส่เปลือกส้ม ตีไข่ที่เหลืออีก 2-3 รอบแล้วผสมกัน
6.ใส่แป้งสาลี และผงฟูประมาณ 1/3 แล้วนำในข้อ 3 มาใส่ประมาณ 1/3 แล้วผสมกัน
7.ผสมในข้อ 6 ทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ดี
8.เทใส่แบบพิมพ์แล้วนำเข้าเตาอบ 180 C ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที พอหน้าเค้กเริ่มแห้งให้ใส่เนื้อส้ม ทิ้งไว้ 25-30 นาที แล้วใช้ไม้แคะเอาออกมาจากพิมพ์
ส่วนผสม (ขนาดหนึ่งปอนด์ 18x9x8 ซม.)
เนย 100 กรัม
น้ำตาลทราย 120 กรัม
ไข่ไก่ 3 ฟอง
เปลือกส้ม 1 ลูก
แป้งสาลี 210 กรัม
ผงฟู 2 ช้อนชา
น้ำส้ม (100%) 60 ซีซี
น้ำเลมอน 40 ซีซี
เนื้อส้ม 1 ผล
วิธีทำ
1.เตรียมเนยและไข่ไก่ ทาเนย (มากน้อยแล้วแต่ชอบ) ในแบบพิมพ์ตัดกระดาษพิมพ์
2.ขูดเอาเปลือกส้ม แล้วเอาเปลือกบางๆ ออกด้วยมีด
3.ใส่น้ำส้มและน้ำเลมอน
4.ใส่เนยในขามและใส่น้ำตาลทรายลงไปผสมให้เข้ากัน
5.ใส่ไข่ไก่ไป 1/3 และใส่เปลือกส้ม ตีไข่ที่เหลืออีก 2-3 รอบแล้วผสมกัน
6.ใส่แป้งสาลี และผงฟูประมาณ 1/3 แล้วนำในข้อ 3 มาใส่ประมาณ 1/3 แล้วผสมกัน
7.ผสมในข้อ 6 ทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ดี
8.เทใส่แบบพิมพ์แล้วนำเข้าเตาอบ 180 C ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที พอหน้าเค้กเริ่มแห้งให้ใส่เนื้อส้ม ทิ้งไว้ 25-30 นาที แล้วใช้ไม้แคะเอาออกมาจากพิมพ์
1.02.2009
เค้กโยเกิร์ตส้ม (Yogurt Orange Pound Cake)
เค้กโยเกิร์ตส้ม (Yogurt Orange Pound Cake)
ส่วนผสม (แบบพิมพ์เค้กปอนด์ขนาด 18x7x6 ซม. 1 อัน)
เนย 70 กรัม
น้ำตาล 50 กรัม
ไข่แดง 2 ฟอง
โยเกิร์ตชีส 60 กรัม
ผิวส้มหั่นฝอย 1 ลูก
เนื้อส้ม 40 กรัม
ไข่ขาว 2 ฟอง
น้ำตาล 110 กรัม
ผงฟู ½ ช้อนชา
โยเกิร์ตไอซิ่ง
น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
โยเกิร์ต 1 ½ ช้อนชา
น้ำส้ม 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1.นำเนยมาทิ้งไว้ให้นิ่มเสียก่อน
2.เทเนยกับน้ำตาลลงในชามใช้ไม้ตีไข่ตีให้เข้ากันจนเริ่มฟู ใส่ไข่แดงลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
3.ใส่โยเกิร์ตชีสลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
4.นำผิวส้มหั่นฝอยกับผลส้มที่หั่นหยาบใส่ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
5.เทไข่ขาวกับน้ำตาลลงชามใบใหม่ ใช้ไม้ตีไข่คนให้เป็นฟอง เมื่อข้นก็จะกลายเป็นเมอแรงก์
6.นำเมอแรงก์ครึ่งหนึ่งลงในส่วนผสมข้อ 4 แล้วคนให้เข้ากัน
7.ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูรวมกัน แล้วคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
8.นำเมอแรงก์ที่เหลือใส่ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
9.นำไปใส่ลงในแบบพิมพ์ที่รองกระดาษสำหรับอบ ปาดหน้าให้เรียบนำไปอบที่อุณหภูมิ 170 C30 นาที จากนั้นลดอุณหภูมิลงเหลือ 160 C อีกประมาณ 20-25 นาที
10.แกะแบบพิมพ์ออกแล้วนำไปแช่ให้เย็น
11.ทำโยเกิร์ตไอซิ่ง นำโยเกิร์ตน้ำส้มและน้ำตาลไอซิ่ง คนให้เข้ากัน
12.นำส่วนผสมข้อ 11 ใส่ลงในข้อ 10 แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ส่วนผสม (แบบพิมพ์เค้กปอนด์ขนาด 18x7x6 ซม. 1 อัน)
เนย 70 กรัม
น้ำตาล 50 กรัม
ไข่แดง 2 ฟอง
โยเกิร์ตชีส 60 กรัม
ผิวส้มหั่นฝอย 1 ลูก
เนื้อส้ม 40 กรัม
ไข่ขาว 2 ฟอง
น้ำตาล 110 กรัม
ผงฟู ½ ช้อนชา
โยเกิร์ตไอซิ่ง
น้ำตาลไอซิ่ง 50 กรัม
โยเกิร์ต 1 ½ ช้อนชา
น้ำส้ม 1 ช้อนชา
วิธีทำ
1.นำเนยมาทิ้งไว้ให้นิ่มเสียก่อน
2.เทเนยกับน้ำตาลลงในชามใช้ไม้ตีไข่ตีให้เข้ากันจนเริ่มฟู ใส่ไข่แดงลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
3.ใส่โยเกิร์ตชีสลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
4.นำผิวส้มหั่นฝอยกับผลส้มที่หั่นหยาบใส่ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
5.เทไข่ขาวกับน้ำตาลลงชามใบใหม่ ใช้ไม้ตีไข่คนให้เป็นฟอง เมื่อข้นก็จะกลายเป็นเมอแรงก์
6.นำเมอแรงก์ครึ่งหนึ่งลงในส่วนผสมข้อ 4 แล้วคนให้เข้ากัน
7.ร่อนแป้งเค้กกับผงฟูรวมกัน แล้วคนให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียวกัน
8.นำเมอแรงก์ที่เหลือใส่ลงไปแล้วคนให้เข้ากัน
9.นำไปใส่ลงในแบบพิมพ์ที่รองกระดาษสำหรับอบ ปาดหน้าให้เรียบนำไปอบที่อุณหภูมิ 170 C30 นาที จากนั้นลดอุณหภูมิลงเหลือ 160 C อีกประมาณ 20-25 นาที
10.แกะแบบพิมพ์ออกแล้วนำไปแช่ให้เย็น
11.ทำโยเกิร์ตไอซิ่ง นำโยเกิร์ตน้ำส้มและน้ำตาลไอซิ่ง คนให้เข้ากัน
12.นำส่วนผสมข้อ 11 ใส่ลงในข้อ 10 แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
Subscribe to:
Posts (Atom)